ศาลห้ามทรัมป์ขึ้นภาษี ดีใจระยะสั้นได้ แต่ความไม่แน่นอนยังลากยาว

29 พ.ค. 2568 | 07:06 น.
อัปเดตล่าสุด :29 พ.ค. 2568 | 07:06 น.

ศาลสหรัฐฯ สกัดคำสั่งขึ้นภาษีของทรัมป์ในอัตรา 10% และภาษีเฟนทานิลจากจีน-แคนาดา-เม็กซิโก แต่ภาษีเหล็ก อะลูมิเนียม และรถยนต์ยังอยู่ ขณะที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ยื่นอุทธรณ์ ศึกภาษีอาจลากยาวถึงศาลฎีกา

ดร.อมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทยกล่าวว่า หลังศาลปฏิเสธข้อโต้แย้งของรัฐบาลที่ระบุว่า ประธานาธิบดีทรัมป์มีอำนาจในการกำหนดภาษีฝ่ายเดียวในการออกมาตรการเก็บภาษีทั่วโลก คำสั่งศาลดังกล่าวจะมีผลให้

ดร.อมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย

  • ยกเลิกภาษีแบบครอบคลุมในอัตรา 10% และภาษีที่เกี่ยวข้องกับเฟนทานิลจากจีน แคนาดา และเม็กซิโก
  • ไม่ครอบคลุม ภาษีเหล็ก อะลูมิเนียม และรถยนต์ (ภายใต้ Section 232 และ Section 301 ซึ่งยังคงมีผลบังคับใช้)
  • กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯได้ยื่นหนังสืออุทธรณ์
  • คดีนี้อาจไปถึงศาลฎีกาสหรัฐฯ ซึ่งอาจเป็นผู้ตัดสินขั้นสุดท้าย

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่อาจเกิดขึ้นต่อไปคือ

  • ทรัมป์อาจหันไปใช้ Section 232 และ 301 เพื่อขยายรายการสินค้าหรือประเทศที่ถูกเก็บภาษีเพิ่มเติม แต่ต้องผ่านกระบวนการสอบสวนโดย USTR และกระทรวงพาณิชย์ซึ่งใช้เวลา
  • ทรัมป์อาจผลักดันให้รัฐสภาออกกฎหมายใหม่เกี่ยวกับการเก็บภาษี
  • ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) อาจแข็งค่าขึ้นจากความกังวลเกี่ยวกับการถือครองสินทรัพย์สกุลดอลลาร์ที่ลดลง ราคาทองลดลง
  • เฟดอาจเฝ้าจับตาความคาดหวังเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่จะลดดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด ตลาดทุนอาจฟื้นตัวในระยะสั้น แต่ความไม่แน่นอนทางการเมืองและการค้าอาจกดดันในระยะยาว

“ผมห่วงทรัมป์ไม่ยอมเสียหน้า จะดันเกมให้ได้จริงๆ ระหว่างรอยื่นให้ศาลยับยั้งคำสั่งศาลการค้าให้ทรัมป์เก็บภาษีต่อได้ ทรัมป์อาจออกมาตรา 122 ที่ให้อำนาจประธานาธิบดีอย่างจำกัดและเจาะจง ในการเก็บภาษีนำเข้าแบบชั่วคราว ไม่เกิน 15% และต้องไม่เกินระยะเวลา 150 วัน”

ทั้งนี้ เพื่อแก้ไขปัญหา ความไม่สมดุลในดุลบันชีชำระเงิน (emergency balance of payments) ซึ่งดุลการค้าเป็นส่วนหนึ่งของดุลบันชีชำระเงินนี้ แต่กฏหมายนี้เคยใช้แค่ตอนประธานาธิบดี Jimmy Carter ปี 1979 สมัยที่สหรัฐเผชิญเงินเฟ้อสูง ค่าเงินอ่อน วิกฤติราคาน้ำมัน

ดังนั้น จากนี้ไปความไม่แน่นอนยังมีสูง ดีใจได้ในระยะสั้น  ไทยยังต้องเจรจาลดการขาดดุลการค้าที่ไทยไม่เสียประโยชน์ โดยเฉพาะลดการสมสิทธิจากจีน ขณะที่เรายังต้องการการลงทุนจากจีน แต่ย้ำว่า ไม่เอาลงทุนศูนย์เหรียญ หรือที่ SME ไทยหรือผู้ประกอบการไม่ได้อะไร