Liberator มองตลาดหุ้นไทยวันนี้ แกว่ง Sideways กรอบ 1,180 - 1,200 จุด

21 พ.ค. 2568 | 03:08 น.
อัปเดตล่าสุด :21 พ.ค. 2568 | 03:08 น.

บล.ลิเบอเรเตอร์ คาด SET วันนี้ "Sideways" ในกรอบ 1,180 - 1,200 จุด การเจรจางบประมาณ-ดันร่างกฎหมายของสหรัฐฯ กดดันจิตวิทยาการลงทุนระยะสั้น ในประเทศ ครม. จัดสรรงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจไทย

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด (Liberator) ประเมินภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ 21 พ.ค.68 ว่า คาด SET วันนี้ "Sideways" ในกรอบ 1,180 - 1,200 จุด เนื่องจากยังมีแรงกดดันทางจิตวิทยาการลงทุนระยะสั้นทั้งในและต่างประเทศ

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้เริ่มย่อตัว หลังปรับขึ้น 6 วันติดต่อกัน โดยแรงกดดันระยะสั้นมาจากความกังวลต่อการเจรจางบประมาณของสหรัฐฯ และการที่ พรรครีพับลิกันพยายามจะผลักดันร่างกฎหมายลดภาษีขนาดใหญ่ให้ผ่าน ซึ่ง อาจส่งผลต่อภาระหนี้ของรัฐบาล

โดยปัจจัยเหล่านี้ก็เป็นประเด็นให้ "มูดี้ส์ เรท ติ้งส์" ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของพันธบัตรสหรัฐฯ จากระดับ Aaa ลง สู่ Aa1 ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุดอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 30 ปี อยู่ที่ระดับ 4.97% (+7bps) 

ส่วนราคาน้ำมันดิบโลกล่าสุดปรับขึ้น หลังจากรายงานของ CNN ระบุว่า หน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ เชื่อว่าอิสราเอลกำลังเตรียมการสำหรับความเป็นไปได้ในการโจมตีศูนย์นิวเคลียร์ของอิหร่าน

ขณะที่ปัจจัยในประเทศนั้น วานนี้ที่ประชุม ครม. มีมติอนุมัติการโอนงบประมาณ 1.57 แสนล้านบาท ซึ่งเดิมจัดสรรไว้สำหรับโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ไปใช้ใน 4 โครงการหลักเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและวางรากฐานการพัฒนาประเทศในระยะ ยาว นำโดย

  1. โครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำและคมนาคม
  2. การพัฒนาท่องเที่ยว
  3. ลดผลกระทบภาคการส่งออกและเพิ่มผลิตภาพ
  4. พัฒนาเศรษฐกิจ ชุมชน

ซึ่งคาดโครงการเหล่านี้จะกระตุ้นเศรษฐกิจไทยฟื้นตัว ดังนั้นคาดเป็น บวกต่อ กลุ่มธนาคาร, รับเหมาฯ, ส่งออก และท่องเที่ยว ขณะที่อาจเป็น จิตวิทยาลบต่อกลุ่มค้าปลีก

ปัจจัยที่ต้องจับตา

21 พ.ค. 

  • สต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ
  • ดุลการค้าและส่งออกญี่ปุ่น 

22 พ.ค. 

  • ยอดขายรถยนต์ของไทยรายเดือน
  • ยอดขายบ้านมือสองสหรัฐฯ
  • PMI ภาคการผลิตและบริการสหรัฐฯ และยูโรโซน
  • ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์สหรัฐฯ

หุ้นเด่นแนะนำ

OSP ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 21.00 บาท 

  • แนวโน้มธุรกิจยังเติบโตดี โดยกำไรไตรมาส 1/68 เติบโตเด่นตามคาด ผสานการบริหารจัดการผลิตได้ดี ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นยืนได้ดี
  • ด้านส่วนแบ่งการตลาด (ในแง่ Volume) เดือนเมษายน ขึ้นสู่ระดับ 30.5% จากมีนาคม ที่ 29.9% 
  • ขณะที่ Valuation อยู่ในระดับที่ไม่แพง โดยเทรดเพียง PE 15 เท่า อยู่ใน ระดับที่น่าทยอยสะสม