นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS เปิดเผยว่า ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ยังแกว่งตัวในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยได้แรงหนุนสหรัฐฯ และจีนประกาศข้อตกลงลดภาษีนำเข้าสินค้าระหว่างกันเป็นเวลา 90 วัน
โดยสหรัฐฯ จะลดภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนจาก 145% เหลือ 30% ขณะที่จีนจะลดภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ จาก 125% เหลือ 10% ประกอบกับนักลงทุนยังติดตามการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 15 พ.ค. 68 นี้ จึงให้กรอบดัชนีในสัปดาห์นี้ที่ 1,200 - 1,250 จุด
นอกจากนี้ ยังคงเฝ้าระวังความไม่สงบระหว่างรัสเซียและยูเครน หลังผู้นำสหรัฐฯ เรียกร้องให้รัสเซียและยูเครนหยุดยิงโดยไม่มีเงื่อนไขเป็นเวลา 30 วัน ซึ่งทางด้านรัฐบาลอิสราเอลออกมาประกาศว่ายังไม่มีข้อตกลงหยุดยิงหรือแลกเปลี่ยนนักโทษกับกลุ่มฮามาส
แม้ว่าจะมีรายงานว่าฮามาสเตรียมปล่อยตัวเอดาน อเล็กซานเดอร์ ตัวประกันสัญชาติอิสราเอล-อเมริกัน ขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพอินเดียเปิดเผยว่า ทางการอินเดียได้ส่งข้อความผ่าน "สายด่วน" ถึงปากีสถาน เกี่ยวกับการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง พร้อมแจ้งเจตนาว่าจะดำเนินการหากเหตุการณ์เกิดขึ้นอีก
ขณะที่การท่องเที่ยวในประเทศกลับมามีสัญญาณที่ดีขึ้น ล่าสุดทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้เปิดเผยตัวเลขนักท่องเที่ยวในช่วงเดือน พ.ค. ที่มีวันหยุดราชการ 2 ช่วง สนับสนุนให้คนไทยเดินทางท่องเที่ยวระยะใกล้หรือในภูมิภาค สร้างรายได้หมุนเวียน 24,150 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9%
นายวัชเรนทร์ จงยรรยง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า สำหรับกลยุทธ์การลงทุนแนะนำเลือกในหุ้นที่คาดการณ์ว่าจะมีการนำเข้าคำนวณ SET50 ในรอบครึ่งปีหลังของปี 68 ที่จะประกาศราวกลางเดือนมิ.ย. นี้ ได้แก่ BCP KKP TCAP
ด้านนายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ขณะที่ราคาทองคำนั้น ทางฝ่ายประเมินว่าราคาทองคำยังคงมีโอกาสปรับตัวลงต่อเนื่อง หลังจากที่ทั้งสหรัฐฯและจีน สามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้ากันได้ ทำให้ความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกถดถอยคลายตัวลง
ประกอบกับประธานเฟดที่มีมุมมองว่าอัตราเงินเฟ้อยังสูงกว่าเป้าหมาย ทำให้อาจชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจาก 4 ครั้งเหลือ 3 ครั้งในปี 68 เป็นปัจจัยกดดันเพิ่มเติม แนะนำให้ทยอยลดสถานะที่แนวต้าน มองกรอบราคาทองคำ 3,170-3,270 ดอลลาร์ต่อออนซ์