ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ 30 เม.ย.68 ในระหว่างการเปิดซื้อขายในภาคเช้าดัชนีแกว่งตัวในกรอบสูงสุดและต่ำสุดที่ระดับ 1,187.41 - 1,169.23 จุด ปิดการซื้อขายภาคเช้าดัชนีอยู่ที่ระดับ 1,181.52 จุด เพิ่มขึ้น 10.40 จุด หรือเปลี่ยนแปลง 0.89% จากปิดตลาดก่อนหน้า โดยมีมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 24,881.72 ล้านบาท
5 หุ้นมูลค่าการซื้อขายสูงสุดในภาคเช้า
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด (Liberator) เปิดเผยว่า ทางฝ่ายมอง SET Index แกว่งขึ้นในกรอบ 1,160-1,200 จุด หลักๆ เป็นผลจากตลาดหุ้นทั่วโลกคาดตอบรับเชิงบวกจากความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศต่างๆ เช่น ญี่ปุ่นและอินเดีย ที่น่าดีขึ้น
อีกทั้งตลาดกำลังตั้งความหวังต่อการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่หลายหน่วยงานคาดการณ์ว่ามีโอกาสที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% มาอยู่ที่ 1.75% ในรอบนี้ ตามความเสี่ยงต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ทั้งเรื่องประเด็นภาษีการค้า, การชะลอตัวของภาคการบริโภคและการท่องเที่ยวไทย
ที่อาจส่งผลให้ GDP ไทยปีนี้มีโอกาสต่ำกว่าที่เคยประเมินไว้ จึงเป็นแรงหนุนให้ กนง. อาจตัดสินใจลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ในทางกลับกันหากว่า กนง. มีมติคงอัตราดอกเบี้ย จะเป็นจิตวิทยาเชิงลบ ซึ่งต้องเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุนมากยิ่งขึ้น
ขณะที่ บล. กรุงศรี ให้มุมมองต่อตลาดหุ้นไทยวันนี้ว่า ฝ่ายวิจัยคาดดัชนี SET Index แกว่งตัว “Sideways/Up” โดยคาดการณ์แนวต้านไว้ที่ระดับ 1,182 - 1,190 จุด และแนวรับที่ระดับ 1,160 - 1,152 จุด โดยมีประเด็นสำคัญที่ต้องติดตามในวันนี้ ได้แก่
1. ฝั่งสหรัฐฯเผยมีความคืบหน้าการเจรจา Tariffs คาดน่าจะเป็นอินเดีย ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ บวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง
2. ภายใน Moody ประกาศปรับลด Outlook Credit Rating ไทยเป็น "เชิงลบ" (Negative) จาก "มีเสถียรภาพ" (Stable) อิงในอดีตที่ไทยโดนปรับลด Outlook 4 ครั้ง SET ปรับลง 2 ครั้ง ปรับขึ้น 2 ครั้ง เท่าๆ กัน ให้ผลตอบแทน 1 วันหลังถูกปรับเฉลี่ย +0.73%
ประเด็นดังกล่าวลบเชิงจิตวิทยาเป็นกลาง-ลบอ่อนๆต่อ SET และการปรับลดครั้งนี้มาจากเศรษฐกิจไทยเสี่ยงด้านนโยบายภาษีการค้า รวมถึงภาระการคลังที่สูง สะท้อนข้อจำกัดของการใช้นโยบายการคลังกระตุ้นเศรษฐกิจ น่าจะเพิ่มโอกาสให้ กนง. พิจารณานโยบายการเงินผ่อนคลายเร็วและเร่งขึ้น
3. จากประเด็นในข้อ 2 ทำให้การประชุม กนง.วันนี้ ฝ่ายวิจัยให้โอกาสที่ กนง. จะลดดอกเบี้ย 25bps เพิ่มเป็น 85% (วานนี้ฝ่ายวิจัยให้ 75%) ทุกๆ การปรับลดดอกเบี้ย -25 bps จะหนุน SET ราว 45-50 จุด
4. ท่องเที่ยวมีสัญญาณฟื้นตัว สัปดาห์ล่าสุด +6% จากสัปดาห์ก่อน นักท่องเที่ยวจีนสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ (ไม่รวมสงกรานต์) และมีโมเมนตัมบวก Golden Week จีนและญี่ปุ่น ในปลายสัปดาห์นี้
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยคาดตลาดแกว่งขึ้น เน้นหุ้นอิงดอกเบี้ยขาลง อาทิ โรงไฟฟ้า, เช่าซื้อ, อสังหา, หนี้สูง, High Yield รวมถึงกลุ่ม Reopening Trade เช่น ชิ้นส่วน, เทคโนโลยี, เกษตร ตลอดจนหุ้นอิงภาคบริการ ประกอบด้วย ค้าปลีก และท่องเที่ยว เป็นต้น โดยวันนี้แนะนำ CPALL, SAWAD และ AP เป็นหุ้นเด่น