จากประเด็นที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เชิญสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม (DSI) เข้าพบ เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในตลาดหุ้น และติดตามการดำเนินมาตรการสร้างความเชื่อมั่น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบังคับใช้กฎหมายให้เร่งดำเนินการอย่างเคร่งครัดและรวดเร็ว พร้อมกันนี้ รัฐบาลจะสนับสนุนในการเร่งรัดแก้ไขกฎหมายเพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่น โดยการเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันการกระทำผิดในตลาดหุ้น ตลอดจนการบังคับใช้กฎหมาย อีกทั้งยังได้เน้นย้ำ 4 เรื่องสำคัญ
หนึ่งในข้อเน้นย้ำครั้งนี้ที่น่าสนใจ คือ เรื่องข้อกำหนดที่จะจัดการเรื่อง free floot ลงโทษบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่ทำผิดเกณฑ์ให้ออกจากตลาดทุนนั้น "ฐานเศรษฐกิจ" ได้มีการสอบถามกับทางตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยได้ข้อมูลว่า การเปิดรับฟังความคิดเห็นในส่วนของ Free Float เดิมจะสิ้นสุดในวันที่ 18 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา แต่เนื่องด้วยรายละเอียดบางประการณ์ที่ยังต้องมีการแก้ไข ทำให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ถอดจากลิสต์การรับฟังความคิดเห็นในข้อกำหนดของ Free Float ออกเป็นการชั่วคราว
หลักๆ เพื่อนำมาปรับรายละเอียดใหม่ให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น โดยเน้นย้ำว่าในปัจจุบันทางตลาดหลักทรัพย์ฯ กำลังเร่งดำเนินการอยู่ คาดว่าเร็วๆ นี้ จะกลับมาเปิดรับฟังความคิดเห็นได้อีกครั้ง
การกระจายการถือหุ้นโดยผู้ถือหุ้นรายย่อย หรือ Free Float เป็นส่วนสำคัญของการมีสภาพคล่องในการซื้อขายหุ้นของบริษัท ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนที่จะซื้อขายหุ้นได้อย่างคล่องตัวและได้ราคาที่เหมาะสม ทำให้เกิดความน่าสนใจลงทุนในหุ้นของบริษัท
ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงกำหนดให้ Free Float เป็นคุณสมบัติประการหนึ่งในการเข้าจดทะเบียนและดำรงสถานะในการเป็นบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ทั้งนี้ บจ. ต้องมีจำนวนผู้ถือหุ้นสามัญรายย่อยไม่น้อยกว่า 150 ราย และถือหุ้นรวมกันไม่น้อยกว่าร้อยละ 15 ของทุนชำระแล้ว
โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ พิจารณาจากรายงาน Free Float ซึ่งบริษัทจัดทำขึ้นจากรายชื่อผู้ถือหุ้นที่ปรากฏ ณ วันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น (Book Closing Date : BC) หรือวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date : RD) เพื่อสิทธิในการเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปีของบริษัท
ก่อนหน้านี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีแผนปรับปรุงเกณฑ์ New Listing เพื่อดึงดูดบริษัทขนาดใหญ่ให้เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยหนึ่งในนั้นมีแนวคิดเรื่องการทบทวนเกณฑ์ Free Float สำหรับบริษัทขนาดใหญ่ที่จะเข้าจดทะเบียนเพื่อเพิ่มความน่าสนใจในการเข้าจดทะเบียน เพิ่มความชัดเจน
อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันกับตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ โดยการดำเนินการดังกล่าวสอดคล้องกับกลยุทธ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ต้องการสร้างโอกาสการเติบโต และผลักดันให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นศูนย์กลางการระดมทุน (Listing Hub) ของธุรกิจที่มีศักยภาพทั้งในและต่างประเทศ
ส่งผลให้ทางตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เปิดรับฟังความคิดเห็น เรื่อง การปรับปรุงเกณฑ์ Free Float สำหรับบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนใน SET และ mai ดังนี้
1. ปรับปรุงเกณฑ์ Free Float สำหรับบริษัทที่มีทุนชำระแล้วไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านบาทที่จะเข้าจดทะเบียน ดังนี้
2. เพิ่มหลักเกณฑ์กรณีบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนใน SET และ mai มีการดำเนินการใดๆ ที่จะส่งผลให้สัดส่วน Free Float ลดลงต่ำกว่าคุณสมบัติตามเกณฑ์รับหลักทรัพย์ ในทันทีตั้งแต่หุ้นเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยจะถือว่าบริษัทดังกล่าวไม่มีคุณสมบัติเรื่อง Free Float ตามเกณฑ์รับหลักทรัพย์ ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้บริษัทเลี่ยงการปฏิบัติตามเกณฑ์รับหลักทรัพย์
ในส่วนของเกณฑ์ดำรงสถานะสำหรับบริษัทจดทะเบียนยังคงไม่เปลี่ยนแปลง คือ บริษัทต้องมีผู้ถือหุ้นรายย่อยขั้นต่ำ 150 ราย และถือหุ้นรวมกันไม่น้อยกว่า 15% ของทุนชำระแล้ว
โดยการเปิดรับฟังความคิดเห็นดำเนินมาได้เพียงระยะสั้นๆ ตลาดหลักทรัพย์ก็พบว่าอาจต้องมีการทบทวนและพิจารณาเรื่องเกณฑ์ Free Float ใหม่อีกครั้ง เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์และมีความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น จึงได้ถอดเรื่องนี้ออกจากการเปิดรับฟังความคิดเห็นตามที่กล่าวในข้างต้น
อย่างไรก็ตาม ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้กำหนดแนวทางดำเนินการกับบริษัทจดทะเบียนที่มี Free Float ไม่ครบถ้วน โดยขึ้นเครื่องหมาย CF (Caution – Free Float) ไว้ที่หลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนดังกล่าว รายละเอียดตามหัวข้อการดำเนินการกรณี Free Float ไม่ครบตามเกณฑ์
แหล่งที่มา : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)