Liberator ชี้แรงขายหุ้นใหญ่กดดันตลาดหุ้นผันผวนกรอบ 1,250-1,280 จุด

07 ก.พ. 2568 | 02:10 น.
อัปเดตล่าสุด :07 ก.พ. 2568 | 02:11 น.

บล.ลิเบอเรเตอร์ ส่องตลาดหุ้นไทยยังผันผวน แรงขายในหุ้นรายตัวขนาดใหญ่ยังกดดันจิตวิทยาการลงทุน ประเมินกรอบดัชนีวันนี้ 7 ก.พ.68 ที่ 1,250-1,280 จุด

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด (Liberator) ประเมินดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index) วันนี้ 7 ก.พ.68 แกว่งตัวผันผวนในกรอบ 1,250-1,280 จุด หลักๆ เพราะยังมีแรงขายในหุ้นรายตัวขนาดใหญ่ยังกดดันจิตวิทยาการลงทุน ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยหลุดแนวรับสำคัญ

ทั้งนี้ วานนี้สหรัฐฯ รายงานตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ พบว่า เร่งขึ้นสู่ระดับ 2.19 แสนราย สูงกว่าสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.08 แสนราย และสูงกว่าคาดที่ 2.13 แสนราย สะท้อนภาคแรงงานในระยะสั้นแผ่วกว่าคาด แต่อย่างไรก็ดีวันนี้ยังมีตัวเลขภาคแรงงานที่สำคัญที่แนะให้ติดตามเพิ่มเติม คือ การจ้างงานนอภภาคเกษตร เดือน ม.ค.

โดยคาดเพิ่มขึ้น 1.75 แสนตำแหน่ง แต่น้อยกว่าเดือน ธ.ค. ที่ขยายตัว 2.56 แสนตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงาน คาดยังคงทรงตัวที่ระดับ 4.1% และค่าเฉลี่ยรายได้ต่อชั่วโมง คาดขยายตัว 3.8% เทียบช่วงเดียวกันในปีก่อน ซึ่งตัวเลขภาคแรงงานเหล่านี้ถือเป็นข้อมูลสำคัญที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะนำมาประกอบการพิจารณานโยบายการเงินในช่วงถัดไป

ในฝั่งยุโรป วานนี้มีการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ลงมาสู่ระดับ 4.5% ตามคาด สอดคล้องกับปีที่ผ่านมาที่ทยอยลดไป 2 ครั้ง โดยคาดว่าปีนี้ยังมีโอกาสลดดอกเบี้ยต่อเนื่อง ตามทิศทางเงินเฟ้ออังกฤษที่ค่อยๆ ผ่อนคลาย ส่งผลให้ค่าเงินปอนด์วานนี้อ่อนค่าสู่ระดับ 1.245 เมี่อเทียบกับดอลลาร์

ด้านปัจจัยในประเทศ SET ยังขาดความเชื่อมั่นในการลงทุน และมีปัจจัยในเชิงลบของหุ้นรายตัวทยอยเข้ามากดดันต่อเนื่อง จึงทำให้ภาพ SET ยังเผชิญแรงขาย และอ่อนแอกว่าภูมิภาค โดยระยะสั้นคงต้องเกาะติดประเด็นผลประกอบการเป็นสำคัญ ซึ่งหากกำไรดีกว่าตลาดคาด อาจเป็นแรงกระตุ้นการลงทุนเพิ่มเติมได้

ปัจจัยที่ต้องจับตา

07 ก.พ. 68

  • การจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ 
  • อัตราการว่างงานสหรัฐฯ 
  • ดัชนีความเชื่อมั่นสหรัฐฯ

หุ้นเด่นแนะนำ

BBL (ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 173.00 บาท)

  • ภาพรวมไตรมาส 4/67 มีการตั้งสำรองลดลง 6.9% จากไตรมาสก่อน และ NPL Ratio ลดลงสู่ระดับ 3.2% จาก 3.9% ในไตรมาส 3/67 สะท้อนคุณภาพสินทรัพย์มีแนวโน้มดีขึ้น
  • ขณะที่ Valuation ปัจจุบันเทรดเพียง PE 6.4 เท่า และ PBV 0.5 เท่า ต่ำสุดในกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ ผสานคาดอัตราการจ่ายปันผลที่ระดับ 5% ต่อปีเพิ่มความน่าสนใจในการทยอยสะสม