MSCI Index เป็นดัชนีอ้างอิงของบริษัท Morgan Stanley Capital International (MSCI) ซึ่งเป็นบริษัททำดัชนีราคาหุ้นชั้นนำของโลก การวิเคราะห์ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของพอร์ตการลงทุน รวมไปถึงเครื่องมือเกี่ยวกับธรรมาภิบาล สำหรับนักลงทุนสถาบันและกองทุน Hedge fund ต่างๆ
จุดเด่นสำคัญหลักๆ ของดัชนี MSCI คือ ดัชนีหุ้นที่หลากหลายกระจายไปทั่วภูมิภาคและธีม มีสินทรัพย์ต่างๆ หลากหลาย ใช้สำหรับค้นหาโอกาสในการลงทุนและนำเสนอได้อย่างดีเยี่ยม โดยมีตั้งแต่ดัชนีพื้นฐานอย่าง MSCI World Index (ดัชนีหุ้นโลก) ซึ่งมีให้เห็นกันโดยทั่วไปในหมู่การลงทุน
วัตถุประสงค์
- สามารถนำมาใช้เป็นเกณฑ์เทียบเคียงหรือ Benchmark สำหรับวัดผลการดำเนินงานของกองทุน หรือการลงทุนของตนเองได้
- นำมาใช้หาไอเดียการลงทุนในธีมประเทศต่างๆ และหุ้นที่มีขนาดหลากหลาย สำหรับนักลงทุนที่ใช้ปัจจัยทางด้านราคามาเกี่ยวข้อง เช่น ใช้ดูโมเมนตัมราคาของธีมการลงทุนต่างๆ เพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจ
- ใช้ดูสัดส่วนการลงทุนตามภูมิภาคหรือเซ็กเตอร์หุ้นต่างๆ เช่น หากคนพูดถึงดัชนีหุ้นโลก อาจเสิร์ชหา MSCI World Index ว่า มีหุ้นอะไรประกอบอยู่บ้าง และอาจนำไปต่อยอดการลงทุนของตนเอง หรือใช้เทียบกับกองทุนที่จะลงทุน
- ใช้สำหรับดูปัจจัยต่างๆ ของเซ็กเตอร์ที่สนใจจะลงทุนเฉพาะกลุ่ม
MSCI มีกี่ประเภท อะไรบ้าง?
- ดัชนี MSCI มีการแบ่งเป็นหลายประเภทสินทรัพย์ ในประเภทของหุ้นเอง จะแบ่งตามประเทศ เช่น ประเทศอเมริกา ประเทศจีน รวมถึงประเทศไทยด้วย ใช้ชื่อว่า MSCI Thailand Index หรือแบ่งตามภูมิภาค เช่น โซนอเมริกา ยุโรป เอเชีย หรือแบ่งตามกลุ่มของประเทศที่พัฒนาแล้ว (Developed Markets) และประเทศที่กำลังพัฒนา (Emerging Markets)
- โดยจะคัดหุ้นที่มีขนาดใหญ่และสภาพคล่องสูง มูลค่าประมาณ 85% ของมูลค่าของหุ้นทั้งหมดในประเทศ ออกมาเป็นหนึ่งในองค์ประกอบดัชนีของประเทศนั้นๆ
- ซึ่งนอกจากหุ้นแล้วยังมีสินทรัพย์ประเภทอื่นที่ใช้วัด เช่น ตราสารหนี้ ตลาดเงิน รวมถึงอสังหาริมทรัพย์
ต่างกับดัชนีหุ้น SET หรือไม่?
ก็ต้องตอบว่าต่างกันที่กฎเกณฑ์ในการคัดกรองหุ้น และวิธีการคำนวณที่แตกต่างกัน โดย SET Index จะคำนวณจากหุ้นทั้งหมดที่มาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อสะท้อนความเคลื่อนไหวภาพรวมของตลาดหุ้นไทย หรือพูดให้ง่ายๆ คือ ตลาดหุ้นไทย มักจะถูกให้น้ำหนักโดยมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap.) ดังนั้น จะเห็นได้ว่า หุ้นตัวไหนที่มีขนาดใหญ่ในตลาดหุ้น เมื่อขึ้นหรือลงแรงๆ จะส่งผลต่อดัชนีหุ้น SET ไปด้วยเช่นกัน
หุ้นบิ๊กแคปไทยติดดัชนี MSCI Thailand
โดยหุ้นขนาดใหญ่ 10 อันดับแรกที่ติดโผ ดัชนี MSCI Thailand ได้แก่
- บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT
- บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS
- บริษัท ซีพี ออลล์ จํากัด (มหาชน) หรือ CPALL
- บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC
- บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT
- บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA
- บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC
- บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP
- บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH
- บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN
เกณฑ์ในการคัดเลือกหุ้นเข้าคำนวณดัชนี
การจัดทำดัชนีของแต่ละประเทศ เช่น ดัชนี MSCI Thailand จะไม่นำมูลค่าของหลักทรัพย์ทุกตัวในตลาดทั้งหมดมาใช้ แต่จะคัดเลือกหลักทรัพย์มามูลค่าประมาณ 85% ของมูลค่าตลาดของหลักทรัพย์ทั้งหมดในประเทศเท่านั้น
- หุ้นนั้นต้องมีสภาพคล่องในการซื้อขายสูง ซึ่งสภาพคล่องจะพิจารณาจากมูลค่าการซื้อขายหุ้นในรอบปีโดยเฉลี่ยเทียบกับมูลค่าตลาดของหุ้นนั้น
- ต้องมี Free Float ขั้นต่ำ 15%
- มีมูลค่าตลาด (Market Capitalization) เมื่อคูณด้วย Free Float เป็นเปอร์เซ็นต์แล้วสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนด โดยแต่ละประเทศก็จะกำหนดไม่เท่ากัน ส่วนในประเทศไทยหุ้นของบริษัทที่จะเข้าเกณฑ์ต้องมีมูลค่าตลาดขั้นต่ำ 250 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
แล้วความหมายของ Free Float คืออะไร
ในกรณีของ MSCI จะนับเฉพาะจำนวนหุ้นที่นักลงทุนต่างชาติสามารถถือครองได้ ซึ่งเรียกว่า Foreign Inclusion Factor (FIF) เช่น หุ้น ABC ซึ่งมีมูลค่าตามราคาตลาด เท่ากับ 10,000 ล้านบาท แต่ถ้าหากหุ้นดังกล่าวมีส่วนที่ชาวต่างชาติสามารถจะถือครองได้เพียง 40% มูลค่าตามราคาตลาดของหุ้นดังกล่าวที่สามารถนำมาคำนวณเป็นมูลค่าตลาดของแต่ละประเทศจะเป็นเพียงแค่ 4,000 ล้านบาทเท่านั้น