ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย วันนี้ 19 ส.ค.2567 ปิดตลาดที่ระดับ 1,323.38 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 20.38 จุด หรือเปลี่ยนแปลง 1.56% จากปิดตลาดก่อนหน้าที่ระดับ 1,303.00 จุด โดยในช่วงระหว่างวันดัชตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,323.38 จุด ก่อนที่จะย่อตัวลงมาทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,302.97 จุด มีมูลค่าซื้อขายทั้งสิ้น 62,385.85 ล้านบาท
โดยตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งในแดนบวกตลาดทั้งวัน หลังจากที่ความกังวลต่อการเปลี่ยนถ่ายทางการเมืองสามารถคลายตัวได้ในระยะสั้น ทำให้คาดว่าการเดินหน้านโยบายการลงทุน และการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ จะสามารคดำเนินการต่อไปได้ แม้ว่าอาจมีการเปลี่ยนแปลงด้านนโยบายบางส่วนไปบ้าง แต่ก็เชื่อว่ารัฐบาลชุดใหม่จะมีนโยบายอื่นๆ มาชดเชย
นอกจากนี้ การที่ทางสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ออกมาเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ GDP ของไทยในไตรมาส 2/2567 ออกมาขยายตัว 2.3% ปรับตัวดีขึ้นจากช่วงไตรมาสแรกที่ขยายตัว 1.5% ยังเป็นอีกแรงกระตุ้นบรรยากาศการลงทุนในวันนี้ให้เขียวฉลุยได้ตลอดทั้งวัน
สำหรับมูลค่าการซื้อขาย ณ วันที่ 19 ส.ค.2567 แบ่งตามประเภทนักลงทุน พบว่า สถาบันและในประเทศ มีสถานะซื้อสุทธิอยู่ที่ 8,925.74 ล้านบาท และ 7,679.24 ล้านบาท ในขณะที่บัญชีบริษัทหลักทรัพย์และต่างประเทศ มีสถานะขายสุทธิอยู่ที่ 118.43 ล้านบาท และ 10,486.55 ล้านบาท ตามลำดับ
ในขณะที่ 5 หุ้น ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุดในวันนี้ ประกอบด้วย
อย่างไรก็ตาม จากการรายงานของตลาดหลักทรัพยแห่งประเทศไทย (ตลท.) เผยว่า สำหรับการซื้อขายตามกลุ่มผู้ลงทุนวันนี้ 19 ส.ค.2567 ผู้ลงทุนต่างชาติมียอดขายสุทธิ 10,486.55 ล้านบาท โดยนับรวมยอดรายการ Big lot ในหุ้นของบริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ SCCC จำนวน 76,107,368 หุ้น มูลค่ารวม 12,177.18 ล้านบาท ซึ่งเป็นการปรับโครงสร้างการถือหุ้นระหว่างกลุ่มผู้ถือหุ้น
โดยบริษัท ซันไรส์ อีคิวตี้ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ เข้าซื้อหุ้นของบริษัทจาก Jardine Cycle & Carriage Limited ส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการถือหุ้นของผู้ทำคำเสนอซื้อและกลุ่มของผู้ทำคำเสนอซื้อให้ถือหุ้นในบริษัทในสัดส่วนโดยประมาณร้อยละ 71.88 ของจำนวนสิทธิออกเสียงทั้งหมดของบริษัท
เป็นผลให้ผู้ทำคำเสนอซื้อมีหน้าที่ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ที่เหลือทั้งหมดของบริษัท โดย SCCC ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ถึงการได้รับแบบประกาศเจตนาในการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ และการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการถือหุ้น ทั้งนี้ หากไม่รวมรายการดังกล่าว ผู้ลงทุนต่างชาติมียอดซื้อสุทธิ 1,690.63 ล้านบาท