"ณัฐชาต" ชี้หากสุญญากาศการเมืองลากยาว ดัชนีเสี่ยงหลุด 1270 จุด

14 ส.ค. 2567 | 11:38 น.
อัปเดตล่าสุด :14 ส.ค. 2567 | 11:38 น.

บล. ทรีนีตี้ ประเมินผลกระทบทางการเมืองกับตลาดหุ้น หลัง ศาลฯวินิจฉัย นายกฯ พ้นตำแหน่ง และครม. ทั้งคณะ ขึ้นอยู่กับการโหวตนายกคนใหม่ และการแต่งตั้งครม.ชุดใหม่ หากลากยาว หุ้นอาจเสี่ยงหลุดแนวรับสำคัญ 1270 จุด หั่น EPS บจ.อีกรอบ แนะเลี่ยงหุ้นค้าปลีก Digital Wallet

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยว่า หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ความเป็นนายกรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน สิ้นสภาพ ทำให้นายกฯ หลุดจากตำแหน่งไปพร้อมๆ กับคณะรัฐมนตรีทั้งหมด

ณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์  บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด

ขั้นตอนหลังจากนี้ คือ สภาฯ มีหน้าที่ที่จะต้องลงคะแนนเสียงเลือกนายกฯ จากบัญชีแคนดิเดตที่เหลืออยู่ อาทิเช่น คุณแพทองธาร ชินวัตร, ชัยเกษม นิติสิริ จากพรรคเพื่อไทย หรือ อนุทิน ชาญวีรกุล จากพรรคภูมิใจไทย เป็นต้น
 

ทั้งนี้ ประเมินผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทย มองเป็น Negative surprise ที่เกิดขึ้นในตลาด คงจะต้องมาดูว่าการรวมคะแนนเสียงเพื่อเลือกนายกฯ คนถัดไป พร้อมกับการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่จะกินเวลายาวนานแค่ไหน หากเกิดขึ้นได้เร็วภายในไตรมาสที่ 3/2567 นี้ เชื่อว่าผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยคงจะมีไม่มากนัก

แต่หากสถานการณ์มีความยืดเยื้อจนกระทั่งเกิดสูญญากาศทางการเมืองไปถึงไตรมาสที่ 4/2567 ประเมินตลาดหุ้นไทยมีโอกาสเผชิญกับภาวะ Political risk premium ที่สูงขึ้นได้ โดยหากออกมาในรูปแบบนี้ มีโอกาสที่คาดการณ์กำไรบริษัทจดทะเบียนต่างๆจะถูกปรับลงอีกระลอกหนึ่ง โดยเฉพาะกลุ่มที่อิงกับ Domestic demand

ซึ่งจะถูกบั่นทอนจาก ความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ลดลง การชะลอการลงทุนของภาคธุรกิจ และการเบิกจ่ายภาครัฐที่ล่าช้าออกไป ไม่นับรวมกับสายตาของนักลงทุนต่างชาติที่เบื่อหน่ายกับภาพการเมืองไทยที่มักมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง 

ในกรณีนี้ ทางฝ่ายอาจจำเป็นต้องปรับลดสมมติฐาน EPS ของตลาดลง จนกระทบกับระดับดัชนี SET ที่เหมาะสม ซึ่งหมายถึงระดับแนวรับสำคัญที่ 1,270 จุด ก็จะถูกกดต่ำลงมาโดยอัตโนมัติ และอาจต้องระวังกลุ่มค้าปลีกที่มีโอกาสได้รับ Sentiment เชิงลบจากความคาดหวังมาตรการ Digital Wallet ที่น้อยลง