นายจรัญพจน์ รุจิราโสภณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจในประเทศ บริษัท ส. ขอนแก่นฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SORKON ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์รายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่า ในปี 2567 บริษัทวางเป้าหมายการเติบโตของยอดขายไว้ที่ตัวเลข 2 หลัก (Double-Digit) จากปีก่อนที่มีรายได้รวมจากการขายอยู่ที่ระดับ 3,133.23 ล้านบาท และมีกำไรสทุธิอยู่ที่ระดับ 54.67 ล้านบาท
แม้ว่าราคาเนื้อหมูสดในปัจจุบันจะยังคงทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ แต่มองว่าด้วยปัญหาหมูเถื่อนที่คลายตัวลงแล้ว คาดว่าราคาเนื้อหมูจะไม่ผันผวนรุนแรงเหมือนในปีที่ผ่านมา ขณธเดียวกันบริษัทก็จะเน้นการบริหารจัดการหมูพันธ์ให้มากขึ้น โดยจะลดปริมาณการจำหน่ายลูกหมูพันธุ์ลง เพื่อลดอัตราเสี่ยงจากการตายในลูกหมูที่ไม่ถูกเลือกและมีภาวะอ่อนแอ
รวมถึงวางแผนการใช้ผลิตภัณฑ์ By Product จะเนื้อหมูให้มากขึ้น เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ทำให้มาร์จิ้นในปีนี้มีแนวโน้มที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับปีก่อน โดยอัตรากำไรขั้นต้น และอัตรากำไรสุทธิในปี 2566 อยู่ที่ระดับ 23.86% และ 1.61% ตามลำดับ
ทั้งนี้ ในปี 2567 บริษัทจะมุ่งเน้นในการทำการตลาดในประเทศไทยให้มากขึ้น โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์แคบหมู ไส้กรอกอีกสาน และแหนมหมู เพราะเป็นกลุ่มที่ได้รับการตอบรับที่ดีและสร้างยอดขายให้กับบริษัทได้อย่างต่อเนื่อง ผลิตภัณฑ์แคบหมูมีแผนจะขยายเข้าไปยังร้านอาหาร ร้านก๋วยเตี๋ยว ไส้กรอกอีกสาน และแหนม จะรุกตลาดที่เป็นงานสังสรรค์ เพิ่มมากขึ้น เพราะสินค้าทานเล่นกับเครื่องดื่มได้ทุกประเภท
พร้อมกันนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าในการขยายตลาดในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดสหรัฐฯ จีน ยุโรป และเนเธอร์แลนด์ จากเดิมที่มีการจำหน่ายผลิตอาการแปรรูปในร้านค้าของคนเอเชีย ก็จะรุกไปขยายร้านค้าปลีก อื่นๆ เพิ่มมากขึ้น ในส่วนของตลาด CLMV บริษัทจะมุ่งเน้นในการขยายเนื้อหมูสดเป็นหลัก
ขณะที่ธุรกิจร้านอาหาร Quick Service Restaurant (QSR) มองว่าในปี 2567 ยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี และเริ่มมีกำไรที่ดีขึ้นให้กับบริษัท หลังจากที่เทิร์นอะราวด์ไปแล้วในปีก่อน โดยการตอบรับจากการเปิดเป็นบุฟเฟ่ออกมาค่อนข้างดี โดยเฉพาะร้านแซ่บคลาสสิก ทำให้มองว่าจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว จะเข้ามาช่วยหนุนยอดขายได้มากขึ้น
นอกจากนี้ ในปี 2567 บริษัทยังมีแผนที่จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มเติม ทั้งกลุ่มอาหารพื้นเมืองไทย กลุ่มขนมขบเคี้ยวประเภทเนื้อสัตว์แปรรูป และกลุ่มอาหารพร้อมรับประทาน อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความหลากหลายและเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคได้มากขึ้น ซึ่งในกลุ่มนี้ยังคงได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคมาโดยตลอด
แผนการลงทุนในปี 2567 บริษัทวางการใช้งบไว้ที่ประมาณ 200 ล้านบาท แบ่งออกเป็นเพื่อรองรับในการเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องจักรการผลิต การปรับกระบวนการผลิตให้เป็นแบบ Automation มากขึ้น ลดต้นทุนแรงงานคนลง ราว 100 ล้านบาท และอีก 100 ล้านบาทที่เหลือ จะใช้รองรับการขยายตลาดและการผลิตในต่างประเทศ โดยแหล่งเงินทุนส่วนใหญ่มาจากเงินกู้ระยะยาว
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 1/2567 บริษัทคาดว่าจะมีการขยายตัวที่ดีขึ้นกว่าเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน เนื่องจากราคาเนื้อหมูสดมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมาแล้ว อีกทั้งจากการรุกขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ช่วยสร้างรายได้จากการขายให้กับบริษัทได้เป็นที่น่าพอใจ