QTCG รายได้ปี 67 โต 20% อวดแบ็กล็อกหนา 1.25 พันล้าน จ่อระดมทุน mai ไตรมาส 1/67 นี้

13 ก.พ. 2567 | 10:30 น.

"ธิติวัฒน์ เงินนำโชคธนรัตน์" แม่ทัพใหญ่ แห่ง QTCG คาดอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างปี 67 โต 10% กางแผนปีนี้รายได้รวมโตไม่ต่ำ 20% จากปีก่อน เร่งเครื่องประมูลงานใหม่เติมพอร์ตกว่า 3.5-4 พันล้าน คาดหวังได้งานเติมพอร์ตไม่ต่ำกว่า 1.6 พันล้าน จ่อระดมทุนเข้าตลาด mai ภายในไตรมาส 1/67

KEY

POINTS

  • QTCG ใส่เกียร์ประมูลงานใหม่เติมพอร์ตมูลค่ารวมกว่า 3.5-4 พันล้าน คาดหวังได้งานใหม่ไม่น้อยกว่า 1.6 พันล้าน
  • QTCG ปักธงปี 67 รายได้โตไม่ต่ำกว่า 20% จากปีก่อน รักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นยืนเหนือ 15% อวดแบ็กล็อกแน่น 1.25 พันล้านบาท คาดรับรู้ในปี 67 กว่า 50%
  • QTCG แต่งตัวเตรียมระดมทุนเข้า mai ในไตรมาส 1/67 นี้

นายธิติวัฒน์ เงินนำโชคธนรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คิวทีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ QTCG เปิดเผยว่า QTCG ดำเนินธุรกิจด้านงานรับเหมาติดตั้งงานระบบวิศวกรรมประกอบอาคาร (Mechanical & Electrical : M&E) อย่างครบวงจร ประกอบด้วย 1.ระบบไฟฟ้าและการสื่อสาร 2. ระบบปรับอากาศและการระบายอากาศ 3. ระบบสุขาภิบาลและระบบประปา และ 4. ระบบป้องกันไฟภายในอาคาร ด้วยประสบการณ์ กว่า 23 ปี ทำให้บริษัทมีทีมวิศวกรที่มากด้วยประสบการณ์ และมีศักยภาพให้บริการรับเหมาติดตั้งงานระบบวิศวกรรมภายในอาคารทุกระบบอย่างครบวงจร ทั้งในรูปแบบผู้รับเหมาหลัก (Main contractor) และในรูปแบบผู้รับเหมาช่วง (Subcontractor)

รูปแบบการให้บริการของบริษัทสามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จนได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าในการดำเนินงานติดตั้งระบบวิศวกรรมประกอบอาคารอย่างต่อเนื่อง อาทิ กลุ่มโรงไฟฟ้า กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม กลุ่มอาคาร สำนักงาน คอนโดมิเนียม กลุ่มโรงพยาบาล กลุ่มโรงแรม และห้างสรรพสินค้า เป็นต้น เชื่อว่าด้วยศักยภาพและจุดเด่นในการเป็นหนึ่งในผู้นำด้านวิศวกรรมงานระบบครบวงจรของไทย และการมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายกระจายในหลากหลายอุตสาหกรรมจะสามารถสร้างโอกาสการเติบโตให้กับบริษัทได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต

ธิติวัฒน์ เงินนำโชคธนรัตน์

ทั้งนี้ บริษัทมองภาพรวมอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างในปี 2567 จะมีการขยายตัวที่ดีขึ้นกว่าเมื่อเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อน ปัจจัยสนับสนุนหลักๆ เป็นผลมาจากการที่ภาครัฐให้ความสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ การเปิดฟรีวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนอย่างถาวร รวมถึงเดินหน้าลงทุนโครงการโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ในประเทศอย่างต่อเนื่อง ทำให้บรรยากาศในการลงทุนของภาคเอกชนปีนี้มีการฟื้นตัวที่ดี โดยคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างในปีนี้จะมีการเติบโตที่ไม่ต่ำกว่า 10% จากปีก่อน

*ชิงงานใหม่4พันล้าน

นับตั้งแต่เดือนมกราคม 2567 บริษัทได้รับคำเชิญเข้าร่วมประมูลงานโครงการใหม่ๆ ทั้งในส่วนของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี 2567 คาดการณ์ว่ามีมูลค่ารวมกันสูงกว่า 3,500-4,000 ล้านบาท เบื้องต้นบริษัทมีความคาดหวังว่าจะได้รับงานใหม่เข้ามาเติมพอร์ตได้ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยเดิมในอดีตที่เคยทำได้ไม่น้อยกว่า 40% ของมูลค่ารวมดังกล่าว หรือประมาณ 1,600 ล้านบาท จาก ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2567 ที่บริษัทมีงานในมือรอการทยอยส่งมอบ (Backlog) ประมาณ 1,250 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะรับรู้เป็นรายได้ในปี 2567 และ 2568 ในสัดส่วน 50:50

ซึ่ง Backlog ที่มีอยู่ในขณะนี้ส่วนใหญ่เป็นงานขนาดใหญ่ในกลุ่มลูกค้า ที่มีชื่อเสียง อาทิ โครงการ CIB International school, โครงการ คอนโด ชูช์ ราชเทวี (SHUSH), โครงการก่อสร้างอาคารกระทรวงมหาดไทย, โครงการพัฒนาพื้นที่ส่วนขยาย ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ โซน C, โครงการ วัน อมตะ, โครงการก่อสร้างอาคารใหม่ตลาดยิ่งเจริญ, โครงการ KIS International school เป็นต้น โดยในปี 2567 บริษัทยังคงรักษาสัดส่วนพอร์ตงานภาคเอกชนไว้ที่ 60% และภาครัฐไว้ที่ 40% ใกล้เคียงกับในอดีต ซึ่งมองว่าอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถกระจายความเสี่ยงของการกระจุกตัวของงานโครงการได้

ในปี 2567 นี้ บริษัทวางเป้าหมายการเติบโตของรายได้รวมไว้ที่ไม่น้อยกว่า 20% จากปีก่อน และจะคงความสามารถในการรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ที่เหนือ 15% ในเรื่องของราคาต้นทุนวัสดุก่อสร้างที่มีความผันผวนนั้น มองว่าไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของบริษัท เนื่องจากสามารถเจรจากับทางลูกค้าได้และที่ผ่านมาลูกค้าก็เข้าใจต่อสถานการณ์ราคาวัสดุในปัจจุบันเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม หากว่าไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามากระทบต่อเศรษฐกิจในประเทศอย่างรุนแรงเหมือนในช่วงก่อนหน้า ก็คาดว่ามีโอกาสที่ผลการดำเนินงานในปีนี้จะมีการเติบโตได้สูงกว่าเมื่อเทียบกับสถืตืในปี 2565 ที่เคยสร้างรายได้ไว้กว่า 988.01 ล้านบาท

ผลการดำเนินงานในช่วงปี 2563-2565 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ระดับ 431.95 ล้านบาท 663.06 ล้านบาท และ 988.01 ล้านบาท ตามลำดับ โดยมีโครงสร้างรายได้มาจาก 3 ส่วน คือ รายได้จากงานก่อสร้าง รายได้จากการขายสินค้า รายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้สินเชื่อแก่สินทรัพย์ด้อยคุณภาพ และรายได้อื่นๆ ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ระดับ -60.09 ล้านบาท 23.43 ล้านบาท และ 101.76 ล้านบาท ส่วนกำไรขั้นต้นอยู่ที่ระดับ -64.11 ล้านบาท 72.69 ล้านบาท และ 101.96 ล้านบาท

QTCG รายได้ปี 67 โต 20% อวดแบ็กล็อกหนา 1.25 พันล้าน จ่อระดมทุน mai ไตรมาส 1/67 นี้

*ก.ล.ต.ไฟเขียวระดมทุน mai

ล่าสุด QTCG ได้รับการอนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์จากสำนักงาน ก.ล.ต. แล้ว และขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเพื่อเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 180 ล้านหุ้น โดยมีมูลค่า ที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท และคาดว่าจะสามารถนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในหมวดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ภายในไตรมาส 1/2567 นี้ 

วัตถุประสงค์ของการระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อต่อยอดความแข็งแกร่งของธุรกิจและเพิ่มโอกาสการรับงานโครงการต่างๆ เพิ่มมากขึ้นในอนาคต โดยบริษัทจะนำเม็ดเงินไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจปกติของบริษัท ภายในปี 2567-2568 ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในการขยายโอกาสสู่การสร้างมูลค่าเพิ่ม เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำธุรกิจให้บริการด้านรับเหมาติดตั้งงานระบบวิศวกรรมประกอบอาคาร (Mechanical & Electrical: M&E) อย่างครบวงจรของประเทศไทย พร้อมกันนี้ บริษัทยังมีความสนใจที่จะขยายขอบเขตในการรับงานออกไปยังตลาดต่างประเทศเพิ่มเติม ซึ่งยอมรับว่าที่ผ่านมาก็ได้รับการติดต่อมาบ้างแล้ว

"เราทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐาน ระบบภายในอาคาร เป็นงานที่ต้องใช้ Skill ของคน ต้องใช้ทั้งความรู้ ความเชี่ยวชาญ และความชำนาญของบุคลากร เพื่อพัฒนาระบบสาธารณูปโภคในอาคาร ซึ่งเป็นเฉพาะด้านจริงๆ ทำให้มองว่าสิ่งเหล่านี้จะไม่มีวันสัญสลายไป นับว่านี่เป็นจุดเด่นของเรา สำหรับการดำเนินธุรกิจ การบริหารจัดการ เรามองว่าที่ผ่านมาก็ทำได้ดี ฝ่าวิกฤตมาก็หลายครั้ง เราก็รอดมาได้และยังคงแข็งแกร่งอยู่"นายธิติวัฒน์ กล่าว