จากการเฝ้าสังเกตการเคลื่อนย้ายเงินทุนต่างชาติในตลาดหุ้นภูมิภาค ในช่วงเดือนมกราคม 2567 พบว่า เม็ดเงินลงทุนของต่างติไหลเข้าไปลงทุนสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ประเทศญี่ปุ่น มูลค่า 17,148 ล้านดอลลาร์, เกาหลีใต้ มูลค่า 2,257 ล้านดอลลาร์, ไต้หวัน มูลค่า 1,416 ล้านดอลลาร์, อินโดนีเซีย มูลค่า 534 ล้านดอลลาร์, มาเลเซีย มูลค่า 145 ล้านดอลลาร์ รองลงมา คือ ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม มูลค่าที่ 80 ล้านดอลลาร์ และ 7 ล้านดอลลาร์ ตามลำดับ ขณะที่ตลาดหุ้นที่ถูกเงินทุนต่างชาติขายออกมากที่สุด คือ อินเดีย มูลค่า 3,141 ล้านดอลลาร์ ตามมาด้วย ไทย มูลค่า 870 ล้านดอลลาร์
มูลค่าการซื้อขายนับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 2 กุมภาพันธ์ 2567 ตามประเภทนักลงทุน ประกอบด้วย
สถาบันในประเทศ ซื้อ 104,466.60 ล้านบาท ขาย 106,574.52 ล้านบาท เป็นมูลค่าการขายสุทธิ -2,107.92 ล้านบาท
บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อ 77,725.24 ล้านบาท ขาย 77,861.49 ล้านบาท เป็นมูลค่าการขายสุทธิ -136.25 ล้านบาท
นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อ 583,912.49 ล้านบาท ขาย 610,608.96 ล้านบาท เป็นมูลค่าการขายสุทธิ -26,696.47 ล้านบาท
นักลงทุนในประเทศ ซื้อ 317,380.44 ล้านบาท ขาย 288,439.80 ล้านบาท เป็นมูลค่าการซื้อสุทธิ 28,940.64 ล้านบาท
การถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างชาติ 10 อันดับสูงสุด นับตั้งแต่ต้นปี 2567 จนถึงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 ประกอบด้วย
การซื้อหุ้นของนักลงทุนต่างชาติ ได้แก่
BH ซื้อสุทธิ 2,669.5 ล้านบาท
AOT ซื้อสุทธิ 2,470.7 ล้านบาท
BBL ซื้อสุทธิ 1,850.7 ล้านบาท
TOP ซื้อสุทธิ 1,248.2 ล้านบาท
ADVANC ซื้อสุทธิ 1,195.6 ล้านบาท
WHA ซื้อสุทธิ 951.1 ล้านบาท
BDMS ซื้อสุทธิ 777.5 ล้านบาท
SCB ซื้อสุทธิ 774.8 ล้านบาท
BCH ซื้อสุทธิ 489.1 ล้านบาท
BCP ซื้อสุทธิ 427.6 ล้านบาท
การขายหุ้นของนักลงทุนต่างชาติ ได้แก่
CPALL ขายสุทธิ 3,775.9 ล้านบาท
KBANK ขายสุทธิ 1,945.7 ล้านบาท
TISCO ขายสุทธิ 1,463.1 ล้านบาท
CPN ขายสุทธิ 1,404.3 ล้านบาท
SCC ขายสุทธิ 830.5 ล้านบาท
LH ขายสุทธิ 674.6 ล้านบาท
KTB ขายสุทธิ 568.2 ล้านบาท
HMPRO ขายสุทธิ 468.3 ล้านบาท
OSP ขายสุทธิ 432.7 ล้านบาท
JMART ขายสุทธิ 421.1 ล้านบาท
(อ้างอิงจากบทวิเคราะห์ บล.กรุงศรี วันที่ 2 ก.พ.67)