กลุ่มรวมพลังหุ้นกู้ STARK ร้อง กมธ. จี้ วนรัชต์ รับผิดชอบเยียวยาผู้เสียหาย
‘กลุ่มรวมพลังหุ้นกู้สตาร์ค’ ซึ่งเป็นกลุ่มประชาชนผู้ลงทุนหุ้นกู้สตาร์คส่วนหนึ่งจากทั้งหมดกว่า 4,600 ราย ที่เสียหายรวมกันกว่า 9 พันล้านบาท ได้ส่งตัวแทนเข้าให้ข้อมูลต่อ กมธ. สภาผู้แทนราษฎร จี้ "วนรัชต์ ตั้งคารวคุณ" รับผิด ช่วยเหลือชดใช้เยียวยาความเสียหายอย่างรวดเร็ว
วันที่ 31 มกราคม 2567 ‘กลุ่มรวมพลังหุ้นกู้สตาร์ค’ ซึ่งเป็นกลุ่มประชาชนผู้ลงทุนหุ้นกู้สตาร์คส่วนหนึ่งจากทั้งหมดกว่า 4,600 รายที่เสียหายรวมกันกว่า 9 พันล้านบาท ได้ส่งตัวแทนเข้าให้ข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นคณะทำทำงานติดตามประเด็นคดีบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มาอย่างใกล้ชิด
นายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ นักกฎหมายผู้รับมอบอำนาจจากผู้เสียหาย ‘กลุ่มรวมพลังหุ้นกู้สตาร์ค’ เปิดเผยว่า ล่าสุดตนได้รับการติดต่อจากทนายความของ นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ ซึ่งเป็นอดีตผู้บริหารและยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และมีบทบาทเกี่ยวข้องกับบริษัท สตาร์คฯ และเป็นทายาทมหาเศรษฐีเจ้าของอาณาจักรสี TOA โดยนายวนรัชต์ยังคงมีท่าทีปฏิเสธความรับผิด แต่อาจพร้อมแสดงความเสียใจช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหาย ซึ่งตนยังรอฟังรายละเอียดว่าจะมีความหนักแน่นจริงใจเพียงใด
เบื้องต้นตนย้ำว่า คดีนี้จำเป็นต้องมีการยอมรับผิดอย่างน้อยที่สุดก็คือในทางแพ่ง และต้องช่วยเหลือชดใช้เยียวยาความเสียหายอย่างรวดเร็วและในจำนวนที่เป็นธรรม หากนายวนรัชต์ มีความจริงใจ กลุ่มตนพร้อมรับฟังแนวทางการนำเงินมาคืนให้ผู้เสียหายอย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ต้องเสียเวลาทำให้คดีความยืดเยื้อ เพราะผู้เสียหายหลายรายเป็นผู้สูงอายุบางท่านเจ็บป่วยไม่มีลูกหลานกำลังทุกข์ทรมานเกินรอ แต่หากข้อเสนอเป็นเพียงการใช้กลอุบายแก้คดี กลุ่มตนก็พร้อมต่อสู้ฟ้องเรียกค่าเสียหายอย่างเต็มที่ และพร้อมเป็นโจทก์ร่วมกับอัยการในคดีอาญาเพื่อนำตัวผู้เกี่ยวข้องที่ร่วมกันกระทำความผิดทั้งหมดมารับโทษ
ที่ผ่านมาประชาชนได้เฝ้าติดตามการทำคดีของภาครัฐซึ่งประชาชนขออย่าปล่อยให้มีบุคคลหรือส่วนใดของขบวนการที่สร้างความเสียหายต่อประชาชนหลุดรอดไปจากการพิจารณาคดีของศาลได้ ย้ำว่าคดีนี้ไม่ใช่แค่การออกหุ้นกู้แล้วชวดเงิน ไม่ใช่แค่การยักยอกฉ้อโกงโดยพนักงานลูกน้อง แต่เป็นการตระเตรียมเป็นขบวนการเพื่อหวังแสวงหาผลประโยชน์จากการระดมทุนจากประชาชนหลายแนวทางโดยการหลอกลวงสร้างความเสียหายต่อประเทศในวงกว้าง และจะมองเฉพาะเหตุการณ์ในช่วงการออกหุ้นกู้สตาร์คจากปี 2564 เท่านั้นไม่ได้ แต่ต้องหาคนที่วางแผนทำผิดมาตั้งแต่ยังไม่มีชื่อ สตาร์ค เข้ามาในตลาดเสียด้วยซ้ำ เพื่อจัดการให้บริษัทอื่นที่อาจกำลังกระทำหรือวางแผนแบบเดียวกันโปรดเกรงกลัวและพึงยำเกรงต่อกฎหมายในบ้านเมือง
ทั้งนี้ ‘กลุ่มรวมพลังหุ้นกู้สตาร์ค’ กำลังยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งเป็นคดีผู้บริโภคแบบกลุ่ม (consumer class action) แทนผู้ถือหุ้นกู้สตาร์คทุกรายทั่วประเทศ ซึ่งจำเป็นต้องฟ้องเพิ่มให้มีเนื้อหาครบมากไปกว่าคดีเดิมที่ผู้แทนหุ้นกู้ 2 ราย คือ ธนาคารกสิกรไทย และ บล. เอเซียพลัส ได้เคยฟ้องไป ซึ่งกลุ่มมองว่าการฟ้องของผู้แทน 2 รายนี้ไม่เพียงพอ และสุดท้ายอาจได้ค่าเสียหายจำกัด
โดยกลุ่มมีคณะทำงานคดีผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายและการบัญชีและการตรวจสอบการทุจริตร่วมทีม พร้อมฟ้องเรียกค่าเสียหายจากผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดโดยกฎหมายเปิดช่องให้ดึงผู้ถือหุ้นใหญ่ร่วมรับผิดพร้อมขอศาลกำหนดค่าเสียหายเชิงลงโทษ 2 เท่าได้ด้วย
ประชาชนผู้ถือหุ้นกู้สตาร์คที่เสียหายสามารถติดตามข่าวสารและร่วมลงชื่อฟ้องคดีภาคประชาชนได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายผ่านกลุ่มไลน์ ‘รวมพลังสตาร์ค’ รหัสไอดีไลน์ @ThaiStark (https://lin.ee/LxasUep) หรือ โทร. 098-427-7151