เปิดศักราชปีมังกร 2 มกราคม 2567 ค่าเงินบาทอ่อนค่าที่ระดับ 34.34 บาทต่อดอลลาร์ จากระดับปิดสิ้นปีที่ 34.12 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ราคาทองคำแท่งในประเทศ 96.5% ตามประกาศสมาคมค้าทองคำทองคำเปิดตลาดที่ 33,600 บาทต่อบาททองคำจากระดับ 33,650 บาทต่อบาททองคำเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2566
นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการฝ่ายบริหาร กลุ่มบริษัทในเครือเอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก (MTS) เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ทิศทางราคาทองคำปี 2567 จะเป็นทิศทางขาขึ้นจาก 5ปัจจัยบวกได้แก่
“ต้นปี 2567 แนวโน้มจะเป็นกระแสลงทุนในทองคำ โดยราคาทองคำน่าจะปรับขึ้นไม่น้อยกว่า 10% หรืออาจจะมีจังหวะเหวี่ยงได้ถึง 15% จากปี 2566 ขยับเพิ่ม 11% ซึ่งผลตอบแทนในทองคำจะมีความโดดเด่นมากกว่ามากลงทุนในตลาดหลักทรัพย์และบัญชีออมทรัพย์” นพ.กฤชรัตน์ กล่าว
ทั้งนี้ส่วนตัวมองว่า ทองคำเป็นทั้งเครื่องประดับและเป็นสินทรัพย์เพื่อการลงทุน และการลงทุนในทองคำปัจจุบันสามารถลงทุนด้วยเงินหลักพันบาทไปจนถึงหลักล้านบาท ขณะเดียวกันผู้ประกอบธุรกิจทองคำยังพัฒนาสู่ออนไลน์ เป็นเหตุผลให้ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีวันตาย ทั้งการซื้อขายทองคำผ่านแอพพลิเคชั่นและการออมทองคำ เพื่อประโยชน์ระยะยาวของประชาชน
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ภาพรวมราคาทองคำที่สูงขึ้นและภาวะเศรษฐกิจไทยที่อ่อนแอลง ทำให้กำลังซื้อของประชาชนลดน้อยลง ทำให้ยอดค้าขายทองคำปรับลดลงมาในแต่ละปี เห็นได้จากราคาทองคำรูปพรรณที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ปี 2566 ที่ผ่านมา ยอดขายทองคำตกลง 10-20% แต่ปริมาณการซื้อขายทองคำแท่ง กลับมาทดแทนกำลังซื้อที่หายไปบางส่วน โดยนักลงทุนหรือผู้มีเงินเย็นหันมาซื้อทองคำแท่งเก็บมากขึ้น
ดังนั้นแนวโน้มธุรกิจค้าทองคำยังเติบโตด้วยการพัฒนาการออม การลงทุนในทองคำแท่ง ประกอบกับราคาทองคำยังมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นได้ต่อเนื่อง ส่วนการซื้อขายทองคำแห่งที่ได้รับความนิยมมากขึ้นการเติบโต 2-3%เนื่องจากราคาแพงขึ้น ขณะที่การลงทุนในทองคำมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องประมาณ 10%
สำหรับตัวแปรที่น่าจับตาในปี 2567 มีทั้งเรื่องราคาทองคำและสัญญาณการหลอกลวง (Fake) ในแง่ของราคาทองคำนั้น อาจทำให้นักลงทุนมีความสุ่มเสี่ยงจากราคาทองคำเหวี่ยงขึ้นเหวี่ยงลง แม้นักลงทุนจะชอบบรรยากาศดังกล่าว หากราคาขึ้นหรือราคาลด ก็ยิ่งฮอตในแง่ซื้อ หากราคาทรงตลาดจะเงียบ ส่วน Fake ปัจจุบันมีการโกงหรือหลอกลวงทุกรูปแบบ โดยหลอกเสนอผลตอบแทนสูง จึงแนะนำให้มีการตรวจสอบก่อนเปิดบัญชี เพื่อป้องกันเงินของลูกค้า
สำหรับราคาเป้าหมายในระยะถัดไปข้างหน้านั้น หากพิจารณาราคาทองคำตลาดโลก(Gold Spot) ปรับขึ้นมา 11% จาก 1,820 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป็น 2,045 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองคำในไทยยืนอยู่ที่ 33,500บาท โดยราคาเป้าหมายในปีหน้าประเมินราคาทองคำตลาดโลกน่าจะปรับขึ้นไม่น้อยว่า 10% หรืออาจจะมีจังหวะเหวี่ยงได้ถึง 15% โดยในรอบปีที่ผ่านมาราคาทองคำเหวี่ยง 4ครั้งๆละ 150-200 ดอลลาร์ซึ่งถือเป็นทั้งวิกฤติและโอกาสของการลงทุน
หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,955 วันที่ 7 - 10 มกราคม พ.ศ. 2567