"ไซยะบุรีฯ" ออกกรีนบอนด์สกุลเงินบาทดอกเบี้ย 5.15-5.55%

18 ต.ค. 2566 | 04:10 น.
อัปเดตล่าสุด :18 ต.ค. 2566 | 05:21 น.

"ไซยะบุรีฯ" ออกกรีนบอนด์สกุลเงินบาทดอกเบี้ย 5.15-5.55% ระบุจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท ยัน XPCL จะไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณเศรษฐกิจของ สปป.ลาว

นายวรพจน์ อุชุไพบูลย์วงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไซยะบุรี พาวเวอร์ จำกัด หรือ โรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี (XPCL) บริษัทร่วมในเครือของ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKPower เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมสกุลเงินบาท อายุ 3 -5 ปี ให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ โดย XPCL ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือองค์กรที่ “A-” แนวโน้ม“คงที่” ส่วนอันดับเครดิตหุ้นกู้อยู่ที่ “BBB+” จากทริสเรทติ้ง จำนวน 3 ชุด คือ
 

  • หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 3 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนตุลาคม ปี 2569 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5.15% ต่อปี
  • หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 4 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนตุลาคม ปี 2570 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5.30% ต่อปี
  • หุ้นกู้ชุดที่ 3 อายุ 5 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนตุลาคม ปี 2571 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5.55% ต่อปี

ทั้งนี้ ผู้ลงทุนสถาบัน หรือผู้ลงทุนรายใหญ่ ที่สนใจหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของ XPCL สามารถจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท ได้ที่ผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ทั้ง 5 แห่ง

สำหรับ หุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมสกุลเงินบาท อายุ 3 -5 ปีดังกล่าว จะเปิดจองตั้งแต่วันที่ 20, 24 และ 25 ตุลาคม 2566 โดยเป็นไปตามมาตรฐาน Green Bond Principles 2021 และ ASEAN Green Bond Standards 2018 

และได้ผ่านการสอบทานโดยองค์กรรับรองมาตรฐานชั้นนำของโลก DNV ในฐานะผู้สอบทานอิสระ (Independent External Reviewer) โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้รับไปชำระคืนเงินกู้ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ อีกทั้งช่วยลดต้นทุนทางการเงินเฉลี่ย 

"ไซยะบุรีฯ" ออกกรีนบอนด์สกุลเงินบาทดอกเบี้ย 5.15-5.55%

นายวรพจน์ กล่าวว่า XPCL จะไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณเศรษฐกิจของ สปป.ลาว เพราะธุรกิจผลิตไฟฟ้านั้นถือเป็นรายได้หลักที่สำคัญของ สปป.ลาว ในการเป็น Battery of Asia ขณะเดียวกัน บริษัทมีการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างรัดกุม โดยจัดการกระแสเงินสดที่เกี่ยวกับการดำเนินงานผ่านบัญชีของธนาคารพาณิชย์ไทยที่เปิดในประเทศไทย 

รวมถึงมีการสำรองเงินสดล่วงหน้าเพื่อให้มีความพร้อมในการชำระดอกเบี้ย จ่ายคืนเงินกู้ และไถ่ถอนหุ้นกู้ ซึ่งบัญชีทั้งหมดก็อยู่ในประเทศไทยเช่นเดียวกัน โดย XPCL มีรายได้เป็นสกุลเงินบาทและดอลล่าร์สหรัฐ และมีค่าใช้จ่ายที่เป็นสกุลเงินกีบในสัดส่วนที่น้อยมาก จึงไม่ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของค่าเงินกีบอย่างมีนัยสำคัญแต่อย่างใด  
 
XPCL ได้รับสัมปทานจากรัฐบาล สปป.ลาว ให้ออกแบบ พัฒนา ก่อสร้าง และดำเนินการ โรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี มีกำลังผลิตติดตั้ง 1,285 เมกะวัตต์ ซึ่งไฟฟ้าที่ผลิตได้เกือบทั้งหมดจำหน่ายให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) มีระยะเวลาสัมปทาน 31 ปี นับตั้งแต่วันเริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2562


โดย XPCL ผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังน้ำได้เฉลี่ยประมาณ 7,400 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี (GWh/Year) ซึ่งจัดเป็นพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) เป็นพลังงานสะอาดที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม สามารถช่วยหลีกเลี่ยงการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 3.8 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี (tCO2e) 

"XPCL มีผู้ถือหุ้นหลักเป็นบริษัทพลังงานชั้นนำในประเทศไทย ได้แก่ CKPower (TRIS Rating: A) ถือหุ้น 42.5% บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC (TRIS Rating: AA+) ถือหุ้นผ่านบริษัทย่อยที่ 25% และบริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO (TRIS Rating: AA+) ถือหุ้น 12.5%"