ประเทศไทยติด 1 ใน 5 ของโลกที่เป็นโรคไตมากที่สุด ปัจจุบันต้องฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม กว่า 1 แสนราย และแนวโน้มผู้ป่วยโรคไตค่อนข้างเพิ่มขึ้นจากตัวเลขผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังในไทย 11.6 ล้านคน ผู้ป่วยใหม่ตกประมาณ 20,000 รายต่อปีคิดเป็นอัตรา 15% ที่กระจายตัวทั่วประเทศ ขณะเดียวกัน 1 ใน 5 ของผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดันกลายเป็นโรคไต
นางสาวกาญจนา พงศ์พัฒนะเดชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคที เมดิคอล เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ KTMS หนึ่งในผู้นำด้านการให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมแบบครบวงจร (One-stop Services) ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ “ฐานเศรษฐกิจ” โดยสะท้อนภาพรวมการให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมว่าแนวโน้มผู้ป่วยโรคไตค่อนข้างเพิ่มขึ้น จากตัวเลขผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังในเมืองไทยประมาณ 11.6 ล้านคน ซึ่งในจำนวนนี้ อาการของโรคจะมีพัฒนาการไปเรื่อยๆ กระทั่งบางคนต้องฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม
ขณะเดียวกันยัง พบว่า 1 ใน 5 ของผู้ป่วยโรคเบาหวานความดันจะกลายเป็นโรคไต โดยปัจจุบันไทยติด 1 ใน 5 ของโลกที่เป็นโรคไตมากที่สุด โดยมีผู้ป่วยโรคไตที่ต้องฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมกว่า 1 แสนราย นอกจากนั้น จำนวนคนไข้ใหม่ที่จะเพิ่มขึ้นประมาณ 2 หมื่นคนต่อปีหรือคิดเป็นอัตรา 15%ที่คนไข้กระจายตัวอยู่ทั่วประเทศ ดังนั้น KTMS จึงเล็งเห็นความจำเป็นที่ต้องมีบริการคุณภาพให้เพียงพอและพร้อมรองรับผู้ป่วยดังกล่าว โดยตั้งเป้าที่จะติดอันดับ 1 ใน 5 ดูแลผู้ป่วยโรคไต มีอัตราเติบโต 30% ต่อปี
นางสาวกาจนา กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำธุรกิจของ KTMS ต้องมีพันธมิตรเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นบริษัทพันธมิตร และอายุรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคไต เพื่อดูแลผู้ป่วย ด้วยจุดแข็งของ KTMS คือ แทบจะเป็นบริษัทเดียวที่ให้บริการครบวงจร (One Stop Service) ขณะที่หน่วยไตเทียมเกือบ 1,000 หน่วยในประเทศไทยส่วนใหญ่เป็นของรัฐ
ทั้งนี้ ปัจจุบัน KTMS ได้รับโอกาสจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เข้ามาสนับสนุนผู้ป่วยโรคไต กรณีไตวายสามารถเลือกฟอกเลือดได้เลย โดย KTMS จะเบิกเงินค่าใช้จ่ายโดยตรงกับสปสช. (ผู้ป่วยไม่ต้องจ่าย) ซึ่งจำนวนคนไข้ที่ฟอกเลือดประมาณ 70% ของคนไข้ที่ฟอกเลือดจะเป็นรายที่สปสช.สนับสนุน
ในแง่ของอัตราการเติบโตต่อปีของ KTMS ประมาณ 30% ต่อปีและในอนาคตยังคงรักษาระดับการเติบโตระดับเดิมอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันส่วนแบ่งทางการตลาดไม่มากประมาณกว่า 1% โดยวางตำแหน่งของ KTMS อยู่ในท็อป 5 ในอนาคต จากปัจจุบันโครงสร้างรายได้มาจากธุรกิจฟอกเลือด 78% ระบบน้ำ 8% น้ำยาไตเทียม 9% ธุรกิจท่อลม 3% และธุรกิจอื่นอีก 2%
“กรณีผู้ป่วยไตวาย คนไข้จะต้องฟอกเลือดอย่างต่อเนื่อง ยกเว้นจะเปลี่ยนไต อย่างบางรายต้องฟอกเลือด 3 ครั้งต่อสัปดาห์หรือ 11-12 ครั้งต่อเดือน เพราะโรคไตต้องรักษาตลอดชีวิต”
ดังนั้นผู้ป่วยรายเดิมก็ถือมากอยู่แล้ว แนวโน้มจึงมีความจำเป็นที่ต้องหา “ที่นั่งใหม่” เพื่อดูแลผู้ป่วยโรคไตให้สามารถดำเนินชีวิตต่อไป ซึ่งหน้าที่ของ KTMS นอกจากขยายคุณภาพบริการที่ดีแล้ว ยังมุ่งพัฒนาบุคลากร ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อส่งต่อวิชาชีพ โดย KTMS จะรับดูแลผู้ป่วยทั้งในรพ.ของรัฐและคลินิกเวชกรรมเฉพาะทางไตเทียมของบริษัทเอง
ซีอีโอ “กาญจนา” และในฐานะพยาบาลไตเทียมกล่าวยอมรับว่า ปัจจุบันอายุรแพทย์ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโรคไตยังมีไม่เพียงพอกับจำนวนคนไข้ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นหน้าที่ของ KTMS นอกจากขยายบริการด้วยคุณภาพแล้ว ยังมุ่งพัฒนาบุคลากร ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อส่งต่อวิชาชีพด้วย
“ความสำเร็จของธุรกิจ เราเน้นให้บริการอย่างมีคุณภาพเพื่อให้คนไข้ได้รับประโยชน์ คุณภาพบริการที่ดี ปัจจุบันเรามีคนไข้ใช้บริการฟอกไตกับเราเกือบ 2,000 คนจากช่วงเริ่มธุรกิจปี 2559 มีคนไข้ 1 คน” นางสาวกาญจนา กล่าวทิ้งท้าย
หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,904 วันที่ 13 - 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2566