ดาวโจนส์ปิดบวก 132.28 จุด หลังเฟดยืนยันไม่เกิดวิกฤตสภาพคล่อง

24 มี.ค. 2566 | 23:50 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (24 มี.ค.) หลังจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงความเห็นที่ได้ช่วยคลายความวิตกของนักลงทุนเกี่ยวกับแนวโน้มการเกิดวิกฤตสภาพคล่องในภาคธนาคาร

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,237.53 จุด เพิ่มขึ้น 132.28 จุด หรือ +0.41%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,970.99 จุด เพิ่มขึ้น 22.27 จุด หรือ +0.56% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,823.96 จุด เพิ่มขึ้น 36.56 จุด หรือ +0.31% ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์บวก 1.2%, ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 1.4% และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 1.7%

หุ้น 9 ใน 11 กลุ่มของดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้น โดยหุ้นกลุ่มปลอดภัย อาทิ กลุ่มสาธารณูปโภคและกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวขึ้นมากที่สุดเมื่อคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ ขณะที่หุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยและกลุ่มการเงินเป็นเพียงหุ้นสองกลุ่มที่ปรับตัวลง

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวผันผวนระหว่างวันเช่นเดียวกับในช่วงหลายวันที่ผ่านมา โดยดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 ตัวเริ่มต้นการซื้อขายด้วยการร่วงลงอย่างหนักตามการทรุดตัวของหุ้นกลุ่มธนาคารของยุโรป

อย่างไรก็ตาม ตลาดได้แรงหนุนจากการที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ระดับภูมิภาค 3 คนระบุว่า พวกเขาเชื่อมั่นว่า ระบบธนาคารไม่ได้เผชิญกับวิกฤตสภาพคล่อง ซึ่งได้ทำให้เฟดตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เมื่อวันพุธ โดยประธานเฟด 3 คนดังกล่าวได้แก่ นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์, นายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟดสาขาแอตแลนตา และนายโทมัส บาร์กิ้น ประธานเฟดสาขาริชมอนด์

นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มธนาคารยังฟื้นตัวขึ้น หลังจากนายโอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนีกล่าวในวันศุกร์ว่า ดอยซ์แบงก์ได้ผ่านการปรับโครงสร้างแล้ว และมีการปรับรูปแบบธุรกิจให้ทันสมัย รวมทั้งเป็นธนาคารที่สามารถทำกำไรอย่างมาก นักลงทุนจึงไม่ควรคาดเดาเกี่ยวกับอนาคตของทางธนาคาร