ลุ้นเฟด จำนนผ่อนคันเร่งดอกเบี้ย รับบทเรียน SVB ล้ม

13 มี.ค. 2566 | 06:55 น.

"กอบศักดิ์" ตีโจทย์ หลังทางการสหรัฐ ประกาศอุ้มผู้ฝากเงิน Silicon Valley Bank "เต็มจำนวน" หวังป้องกันโดมิโน-แบงก์ล้ม จับตาเฟดยอมจำนน ส่งสัญญาณทิศทางดอกเบี้ย 22 มี.ค.นี้

ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ และประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) โพสต์เฟซบุ๊ก “กอบศักดิ์ ภูตระกูล” ระบุว่า 

เมื่อคืนนี้ ทางการสหรัฐ ประกาศ ยอมจำนน

1. อุ้มผู้ฝากเงินของ Silicon Valley Bank : SVB  (เงินฝาก 175,400 ล้านดอลลาร์ ) ทั้งผู้ฝากที่มีการค้ำประกันจากสถาบันประกันเงินฝาก FDIC หรือไม่มีค้ำประกัน หมายความว่า คนที่ฝากเกิน 250,000 ดอลลาร์ ก็จะได้เงินคืนตั้งแต่เช้าวันจันทร์เป็นต้นไป

ที่เป็นเช่นนี้ ก็เพราะว่าในช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา ผู้ฝากเงินทั่วสหรัฐ เริ่มไปถอนเงินจากแบงก์เล็กๆ ตามชุมชน และแบงก์ท้องถิ่นต่างๆ จากความกังวลใจว่าจะไม่ได้เงินคืน ทำให้เกิดแรงกดดันต่อสภาพคล่องของแบงก์ต่างๆ 

ยิ่งไปกว่านั้น  Signature Bank ที่ New York (เงินฝาก 89,000 ล้านดอลลาร์) ถูกสั่งปิดเป็นรายที่ 2  กลายเป็นกรณีแบงก์ล้มที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ในประวัติศาสตร์ของสหรัฐ รองจาก Silicon Valley Bank ที่เป็นอันดับ 2 และ Washington Mutual ที่เป็นอันดับ 1 ที่ล้มไปช่วงวิกฤต Hamberger !!!
 

2. ช่วยสภาพคล่องแบงก์ที่เหลือ โดยเฟดประกาศ Bank Term Funding Program ขนาด 25,000 ล้านดอลลาร์ ให้ธนาคารสามารถเอาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ หรือ ตราสาร Mortgage backed securities มาแลกเป็นสภาพคล่องได้ที่ราคาหน้าพันธบัตร  ทั้งนี้ เพื่อจะได้ไม่ต้องจบลงแบบ Silicon Valley Bank ที่ต้องขายออกไปแลกสภาพคล่องที่ราคาขาดทุน

ทั้งหมด คงเพราะเห็นแล้วว่า ปล่อยไปคงล้มอีกหลายธนาคาร และอาจจะลุกลามไปมากกว่านี้ ยอมทำผิดตำราที่ตนเองชอบสอนคนอื่นไว้ ให้ลงโทษผู้ฝากเงินด้วย เวลาแบงก์ล้ม 

รอบนี้ ตัดสินใจ "อุ้มผู้ฝากทุกคน" ให้ถอนได้เต็มจำนวนตั้งแต่วันจันทร์ เพื่อให้ผู้ฝากเงินสหรัฐ หยุดไปถอนเงิน เพราะ "ทางการจะเข้ามาช่วยแล้ว" โดยสหรัฐบอกว่า ถ้ายอมปล่อยให้สถานการณ์หมุนไปต่อสุดท้ายก็อาจจะลุกลามไปกว่านี้

แล้วมาลุ้นต่อกันว่าเรื่องแบงก์ล้ม จะจบไหม เรื่องดอกเบี้ย เฟดจะเดินอย่างไรต่อ !!!

 

ขณะที่มุมมองของโบรกเกอร์ ต่อกรณีวิกฤต SVB อาทิ นางวรวรรณ ธาราภูมิ  ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บัวหลวง ให้ความเห็นต่อทิศทางดอกเบี้ยเฟด ในระยะถัดไปว่า  วิกฤตศรัทธาและวิกฤตสภาพคล่องของธนาคาร SVB ทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ จัดตั้งกองทุนหนุนเงินฝาก ขณะที่ FED เรียกประชุมด่วนทันทีในวันจันทร์ที่ 13 มีนาคม เพื่อหาทางป้องกันและรับมือกับวิกฤตที่อาจจะเกิดขึ้นตามมา  ส่วนมุมมองของลงทุนบางส่วน คาดว่าการประชุมธนาคารกลางสหรัฐหรือ FED ในวันที่ 21-22 มี.ค.66  FED จะไม่ขึ้นดอกเบี้ยถึง +0.5%  เพราะจะซ้ำเติมให้ตลาดตึงเครียดมากขึ้นอีก

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้  กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นอาจกลับกลายเป็นปัจจัยบวกทางอ้อมต่อมายังภาวะการลงทุนในตลาดทุนโลกช่วงต่อไป ผ่านช่องทางการปรับเปลี่ยนโหมดนโยบายการเงิน และนโยบายการคลังของสหรัฐ

โดยเฉพาะธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่มีโอกาสที่ Fed จะมีมติปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเพียงแค่ 0.25% ในการประชุมที่จะเกิดขึ้นเดือนนี้ (จากเดิมที่คาดว่าเฟดจะปรับขึ้น 0.50% )