KBANKชี้ทิศทางค่าเงินบาท-หุ้นไทยสัปดาห์หน้า

27 พ.ย. 2565 | 02:36 น.

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยแนะติดตาม " ถ้อยแถลงของประธานเฟด ผลการประชุมกนง. รายงานเศรษฐกิจการเงินและข้อมูลการส่งออกของไทยเดือนต.ค."ปัจจัยชี้ทิศทางค่าเงิน-ดัชนีหุ้นทย28พ.ย-2ธ.ค.2565

ธนาคารกสิกรไทยมองสัปดาห์หน้าระหว่างวันที่ 28พ.ย-2ธ.ค.2565 กรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ระดับ 35.25-36.25 บาทต่อดอลลาร์ฯโดยวันศุกร์ที่ 25 พ.ย. 2565 เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 35.82 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 35.76 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (18 พ.ย.)

 

สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 21-25 พ.ย. 2565 นั้น นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 5,388 ล้านบาท และมีสถานะเป็น Net Outflows ออกจากตลาดพันธบัตร 11,666 ล้านบาท โดยเป็นการขายสุทธิพันธบัตร 8,775 ล้านบาท ขณะที่มีตราสารหนี้ที่หมดอายุ 2,891 ล้านบาท

สำหรับทิศทางตลาดหุ้นไทย บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด(บล.) มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,600 และ 1,580 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,640 และ 1,660 จุด ตามลำดับ


ทั้งนี้เมื่อวันศุกร์ (25 พ.ย.) ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,620.84 จุด เพิ่มขึ้น 0.21% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 51,425.24 ล้านบาท ลดลง 15.33% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai ลดลง 3.04% มาปิดที่ระดับ 582.43 จุด     

ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ถ้อยแถลงของประธานเฟด ผลการประชุมกนง. 30พ.ย.2565  รายงานเศรษฐกิจการเงินและข้อมูลการส่งออกของไทยเดือนต.ค.

 

ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ดัชนี PMI/ISM ภาคการผลิต ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร และอัตราการว่างงานเดือนพ.ย. ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย ดัชนี PCE/Core PCE Price Index เดือนต.ค. ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/65 (prelim.) และรายงาน Beige Book ของเฟด

 

นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามดัชนี PMI ภาคการผลิต/บริการเดือนพ.ย. ของจีน ทิศทางสกุลเงินเอเชียและกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายด้วยเช่นกัน