ก๊วนหุ้น MORE โดนแล้ว อายัดเงิน 3.2 พันล้าน จ่อฟัน 2 โบรก

ผลการสอบสวนความผิดปกติจากการซื้อขายหุ้น บมจ.มอร์ รีเทิร์น (MORE) ด้วยมูลค่าที่สูงผิดปกติจาก 300 ล้านบาท พุ่งขึ้นเป็น 7,000 ล้านบาทเศษ จนทำให้ราคาพุ่งในวันที่ 10 พ.ย. 2565 กว่า 4.3% โดยช่วงเปิดตลาดปริมาณซื้อขาย 1,500 ล้านหุ้น มูลค่าเกือบ 4,500 ล้านบาท ก่อนที่จะถูกเทขายอย่างหนักจนร่วงติดฟลอร์จาก 2.90 บาทลงมาปิดที่ 1.37 บาท ในวันที่ 11 พ.ย.2565 ว่า มีการทำราคาระหว่างผู้ขายกับผู้ซื้อหรือไม่ มีพฤติกรรมฉ้อโกงในการสั่งซื้อหรือไม่ เพราะถึงตอนนี้ผู้รับซื้อคือนายอภิมุข รักษาวงษ์ หรือปิงปอง ไม่มีเงินมาจ่ายค่าหุ้นให้โบรกเกอร์ กำลังจะมีบทสรุปทางคดีเร็วๆนี้

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)ระบุว่า มูลค่าความเสียหายครั้งนี้อาจจะสูงถึง 7,500 ล้านบาท หากจะนับรวมกับนักลงทุนรายอื่นๆที่เข้ามาร่วมในการซื้อขายหุ้นในครั้งนี้ นอกเหนือจากรายการพบความผิดปกติเกือบ 4,500 ล้านบาทจากราคาเปิดเมื่อวันที่ 10 พ.ย. ที่สูงถึง 2.9 บาท ในจำนวน 1,500 ล้านหุ้น

• พบ 24 รายใหญ่ขาย

แหล่งข่าวจากคณะทำงานร่วมระหว่าง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)  สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย  (ASCO) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะทำงานล่าสุดเมื่อวันที่ 17 พ.ย.2565 ที่วอร์รูมตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้รายชื่อผู้ขายหุ้น MORE และความเกี่ยวโยงกันระหว่างผู้ขายกับผู้ซื้อในเบื้องต้นมาบ้างแล้ว ในเบื้องต้นได้รายชื่อผู้ขายที่เกี่ยวพันมาแล้วทั้งสิ้น 21-24 รายใหญ่ และปปง.สั่งอายัดรายการจ่ายเงิน อายัดบัญชีเงินสดไว้แล้วในบางราย วงเงินรวมทั้งสิ้น 3,200 ล้านบาท

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า เท่าที่มีการตรวจสอบรายการตั้งขายและรับซื้อที่เกี่ยวพันกันชัดเจนนั้น มีวงเงินรวมประมาณ 4,500 ล้านบาทเศษ แต่ที่จะมีการสั่งอายัดบัญชีเงินสด และรายการจ่ายเงินในรอบแรกจะตก 3,200 ล้านบาท ส่วนใหญ่จะเป็น ธุรกรรมการเงินจากการขายหุ้น MORE ผ่าน ASL ในชื่อบัญชีนายสามารถ ฉั่วศิริพัฒนา ที่เป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 6 ในจำนวน 279 ล้านหุ้น คิดเป็น 4.27% ในบัญชีนายศิริศักดิ์ ปิยทัสสีกุล ผู้หุ้นอันดับ 3 ในจำนวน 742,862,800 หุ้น สัดส่วน 11.37% และในบัญชีนายวสันต์ จาวลา นักอสังหาริมทรัพย์นักลงทุนชาวเชียงใหม่ ทายาทพ่อค้าผ้าในตลาดวโรรส ที่เป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 5 ในจำนวน 431.9 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 6.61%

“เท่าที่คณะทำงานมีข้อมูลจากวอร์รูม ผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 รายนี้มีการขายหุ้น MORE ออกไปมูลค่าราว 640 ล้านบาท ในจำนวนนี้มีหุ้นบางส่วนที่เพิ่งโอนมาจาก โบรกเกอร์ Z.Com ก่อนทำรายการเพียง 1 วันเท่านั้น” แหล่งข่าวระบุ

• อายัดเงินครอบครัว “พรประภา” 

นอกจากนี้ ทางปปง.จะสั่งการอายัดบัญชีเงินสด อายัดรายการจ่ายเงิน จากคำสั่งซื้อขายผ่านทาง บล.บัวหลวง และ บล. Innovest X (บล. ไทยพาณิชย์เดิม) ภายใต้ชื่อของนักลงทุนในตระกูล พรประภา อีก 3 บัญชี ประกอบด้วย บัญชีในรายชื่อนายอธิพัธร พรประภา บัญชีในรายชื่อนายเอกภัทร พรประภา และบัญชีในรายชื่อนางอรพินธุ์ พรประภา บัญชีในรายชื่อทั้ง 3 รายการ ถูกสั่งขายออกมาในราคาเปิดกว่า 2,000 ล้านบาท หรือ กว่า 690 ล้านหุ้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการอายัดจาก ปปง.

แหล่งข่าวจากคณะทำงานร่วมยังเปิดเผยอีกว่า ในชั้นการสืบสวนสอบสวนการสั่งซื้อขายหุ้น MORE ที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายการฉ้อโกงนั้น ปรากฎว่า มีโบรกเกอร์ 2 ราย ที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของปปง.กล่าวคือ ไม่รายงานภาพรวมธุรกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัย หรือ Suspicious Transaction Report: STR ให้กับ ปปง. เพื่อทำการตรวจสอบผ่านระบบ EDD และขยายวงเครือข่าย โดย ปปง.จะเอาผิดทั้งทางแพ่งและอาญา กับ 2 โบรกเกอร์ ที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของ ปปง.” เพื่อทำการอายัดรายการจ่ายเงิน

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า “บล.AI ” ที่ไม่ส่งรายงาน STR แก่ปปง.นั้น ได้ปล่อยเงินจากรายการต้องสงสัยแก่ลูกค้าไปแล้วกว่า 100 ล้านบาท  ขณะเดียวกัน คณะทำงานร่วมยังตรวจสอบธุรกรรมแล้วพบว่า มีพฤติกรรมที่ผิดปกติในการซื้อขายหุ้น MORE ในบัญชีลูกค้าของ “บล. F” ที่มีธุรกรรมการซื้อขายเข้าข่ายการสาดขายหุ้นจนติด Floor ของลูกค้า ซึ่งคาดว่า น่าจะอายัดบัญชีของลูกค้าที่เข้าข่ายผิดปรกติแน่นอน

“ทางคณะทำงานวอร์รูมเห็นพ้องกันว่า เพื่อให้การตรวจสอบความผิดปกติจากการซื้อขายหุ้น MORE มีประสิทธิภาพและรวดเร็ว ตลาดหุ้นจะเปิดรับข้อมูลจากผู้เกี่ยวข้องกับหุ้น MORE โดยจะให้โอกาสผู้ที่ซื้อขายที่ไม่ต้องการเกี่ยวข้องกับกรณีนี้หากติดต่อมาให้ข้อมูลจะเปลี่ยนสถานะจากจำเลย ผู้ต้องสงสัย มาเป็นพยาน”แหล่งข่าวระบุ

แหล่งข่าวชี้แจงเพิ่มเติมว่า ในชั้นการสืบสวนสอบสวนการซื้อขายหุ้น MORE ที่ทางโบรกเกอร์และตลาดหลักทรัพย์ฯ เห็นว่า มีพฤติกรรมเข้าข่ายฉ้อโกงและมีการทุบหุ้นนั้น มีข้อมูลชัดเจนว่า ฝั่งผู้ซื้อหุ้น MORE ที่มากผิดปกติ มาจากรายเดียวกลุ่มเดียวกันที่ราคา 2.90 บาท และมีการดำเนินการผ่านทางโบรกเกอร์ชื่อดังหลายแห่ง แต่มีคำสั่งตั้งราคาฝั่งขายไม่ถึง 10 ราย ความเสียหายยังประเมินไม่ได้

• ก.ล.ต.จ่อปรับเกณฑ์ IPO 

น.ส.จอมขวัญ คงสกุล ผู้ช่วยเลขาธิการสายระดมทุน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)กล่าวว่า จากกรณีความผิดปกติในการซื้อขายหุ้น MORE ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้หารือร่วมกันเพื่อยกระดับ คุณภาพของบริษัทที่เข้าจดทะเบียน โดยได้ข้อสรุปว่า จะทบทวนเกณฑ์รับหุ้นทั้งเกณฑ์เชิงปริมาณและคุณภาพ อาทิเช่น การทบทวนเกณฑ์กำไรของบริษัทที่จะจดทะเบียน IPO ว่า ต่ำเกินไปหรือไม่ จะมีการทบทบเกณฑ์การเข้าจดทะเบียนทางอ้อม หรือ แบ๊คดอร์ ลิสติ้ง

ขณะเดียวกัน ในวันที่ 17 พ.ย.2565 สำนักงาน ก.ล.ต.ได้แจ้งให้คณะกรรมการ MORE ชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่นายอมฤทธิ์ กล่อมจิตเจริญ ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ซึ่งเข้าข่ายเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกัน และการขอผ่อนผันการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของกิจการ โดยอาศัยมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น โดยที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (IFA) เห็นว่า ผู้ถือหุ้นไม่ควรลงมติอนุมัติและมีข้อสังเกตเกี่ยวกับเหตุการณ์ความผิดปกติของราคาหุ้น MORE ซึ่งมีผลกระทบต่อการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนและผู้ถือหุ้นที่จะใช้สิทธิออกเสียงในที่ประชุมผู้ถือหุ้น รวมทั้งความจำเป็นของการเพิ่มทุนในช่วงที่เหตุการณ์ดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง