KEY
POINTS
นายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า โครงการปิดหนี้ไว ไปต่อได้ เป็นการแก้หนี้เสียรายย่อยที่มีภาระหนี้ต่ำกว่า 1 แสนบาท ผ่านกลไกการบริหารหนี้เสีย (AMC) ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร่วมกับกระทรวงการคลัง และสถาบันการเงิน ซึ่งครอบคลุมลูกหนี้กว่า 4.7 ล้านบัญชี หรือประมาณ 3.5 ล้านราย
ทั้งนี้ จากจำนวนดังกล่าว แม้มูลค่าหนี้รวมของกลุ่มนี้อาจไม่สูงมากนัก แต่คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 64% ของจำนวนบัญชี NPL ทั้งหมด หากสามารถช่วยเหลือคนกลุ่มใหญ่นี้ให้หลุดพ้นจากสถานะหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จะช่วยให้พวกเขามีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและสามารถกลับเข้าสู่ระบบการเงินปกติได้ ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจ
สำหรับระยะแรก จะดำเนินการโอนหนี้เสียรวม 1.6 ล้านบัญชี เข้าสู่บริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) หนี้เหล่านี้มาจากธนาคารพาณิชย์ และบริษัทลูกที่เป็น Non-bank โดยคาดว่าการเดินหน้าโครงการดังกล่าว จะสามารถแก้หนี้สำเร็จอย่างน้อย 30-50% ของสัดส่วน 1.6 ล้านบัญี หรือคิดเป็นสัดส่วน 5-8 แสนคน
โดยบริษัทบริหารสินทรัพย์ที่รับโอนหนี้ คือ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (SAM) ซึ่งมีกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ถือหุ้นอยู่ 100% ทั้งนี้ เราจะปรับสถานะ SAM ให้เป็น Social AMC" โดยมีภารกิจหลักคือการแก้หนี้และช่วยเหลือประชาชน โดยไม่ได้มุ่งหวังกำไรสูงสุดจากการบริหารหนี้
สำหรับเงินทุนที่ใช้ในการซื้อหนี้ส่วนนี้มาจากเงินที่มาจากการลดการนำส่งเงินเข้ากองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯซึ่งเป็นเงินที่เคยใช้ในโครงการ "คุณสู้ เราช่วย" แต่ยังใช้ไม่หมด
สำหรับกลไกการเดินหน้าโครงการดังกล่าว คือ เมื่อหนี้ถูกโอนไปยัง SAM ซึ่งเป็น Social AMC แล้ว SAM จะปรับโครงสร้างหนี้ให้ลูกค้าด้วยเงื่อนไขที่ผ่อนปรนอย่างมาก ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่ธนาคารพาณิชย์ปกติ หรือ AMC ที่มุ่งหวังกำไรสูงสุดไม่สามารถทำได้
ส่วนมาตรการสำคัญในการปรับโครงสร้างหนี้ ได้แก่ การยกเว้นดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมคงค้างทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นดอกเบี้ยผิดนัดหรือดอกเบี้ยปกติ, ลดเงินต้น ในจำนวนและสัดส่วนที่สูงตามตารางการคำนวณ เพื่อให้มั่นใจว่าลูกหนี้สามารถแก้ไขสถานะ NPL ได้โดยเร็วที่สุด
นอกจากนี้ ธปท. พบว่าลูกหนี้ส่วนใหญ่มีมูลหนี้ต่ำกว่า 3 หมื่นบาทต่อราย ซึ่งหากลูกหนี้ดังกล่าวเข้ามาชำระหนี้ ได้แก่ กรณีชำระครั้งเดียว หรือปิดจบหนี้เลย จะได้รับรหัสเครดิต 1 หรือรหัสปิดหนี้บัญชีปกติทันที โดยไม่ต้องรอเวลา 3 ปี ตามระบบเดิม ส่วนกรณีผ่อนชำระหนี้ สามารถผ่อนชำระได้นานถึง 3 ปี โดยไม่มีดอกเบี้ย ทั้งนี้ ระหว่างการผ่อนชำระ ลูกหนี้จะมีสถานะที่ดีขึ้นกว่าการเป็นหนี้เสีย และเมื่อผ่อนหมดก็จะเปลี่ยนเป็นรหัส 1 หรือปิดหนี้บัญชีปกติทันที
ลูกหนี้ที่อยู่ในกลุ่มเป้าหมายนี้ ไม่จำเป็นต้องดำเนินการใดๆ ในช่วงเริ่มต้น การโอนหนี้จะเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างสถาบันการเงินกับ SAM โดยลูกหนี้จะได้รับการแจ้งจากสถาบันการเงินหรือ SAM ว่าหนี้ของตนถูกโอนมาที่ SAM แล้ว ซึ่งถือเป็นข่าวดีสำหรับลูกหนี้ ขณะที่การชำระหนี้สามารถเริ่มติดต่อได้ตั้งแต่ต้นปี 2569 เป็นต้นไป
“ในช่วงแรก ลูกหนี้อาจต้องชำระหนี้ที่สถาบันการเงินเดิมก่อน เมื่อ SAM วางระบบพร้อมแล้ว คาดว่าประมาณเดือนก.พ.69 เป็นต้นไป ลูกหนี้สามารถเลือกชำระได้ทั้งที่สถาบันการเงินเดิมหรือชำระที่ SAM โดยตรง”
ส่วนกรณีหากลูกหนี้กลับมาชำระหนี้ไม่ได้อีกหลังจากเข้าร่วมโครงการ สถานะของหนี้ก็จะกลับไปเป็นหนี้เสียตามปกติ แต่สถานะโดยรวมจะไม่แย่ไปกว่าเดิม
ทั้งนี้ หลังจากเฟสแรกที่โอน 1.6 ล้านบัญชีแล้ว กระทรวงการคลังจะมีการหารือกับสถาบันการเงินของรัฐเพื่อโอนหนี้อีกส่วนหนึ่งจำนวน 300,000 บัญชีต่อไป และจะมีการพิจารณาขยายผลไปยังหนี้ส่วนที่เหลือในเฟสถัดไป
นอกจากนี้ ธปท. ยังได้มีการประกาศต่ออายุอนุญาตให้มีการจัดตั้ง JV AMC (Joint Venture AMC) ขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่เคยหมดอายุไปตั้งแต่ปลายปี 2567 โดยมีธนาคารพาณิชย์อย่างน้อย 2-3 แห่งแสดงความสนใจที่จะตั้ง JV AMC เพื่อรับโอนหนี้ส่วนที่เหลือ อย่างไรก็ตาม โครงการของ JV AMC อาจจะไม่สามารถเสนอเงื่อนไขการผ่อนปรนที่ลึกเท่ากับโครงการ Social AMC นี้