ผู้ว่าแบงก์ชาติ สั่งยกระดับสกัดทุนเทา ปิดช่องโหว่ฟอกเงิน

04 พ.ย. 2568 | 07:59 น.
อัปเดตล่าสุด :04 พ.ย. 2568 | 08:05 น.

ธปท. เดินหน้าปราบทุนเทาเต็มรูปแบบ ยกระดับมาตรการติดตามเส้นทางการเงินต้องสงสัย ครอบคลุมทั้งธนาคารพาณิชย์ e-Wallet ร้านแลกเงิน และผู้ให้บริการโอนเงิน พร้อมร่วมมือ ปปง. ปิดช่องโหว่ฟอกเงิน

KEY

POINTS

  • ธปท. ยกระดับมาตรการตรวจสอบธุรกรรมต้องสงสัย โดยเฉพาะบัญชีที่เชื่อมโยงกับการพนันออนไลน์และมิจฉาชีพ
  • คุมเข้มผู้ให้บริการทางการเงินทุกประเภทภายใต้การกำกับดูแล เช่น ธนาคารพาณิชย์ ร้านแลกเงิน และ e-Wallet เพื่อติดตามเส้นทางเงินผิดปกติ
  • ร่วมมือกับ ปปง. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อปิดช่องโหว่การฟอกเงิน พร้อมปรับปรุงเกณฑ์การตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า (Customer Due Diligence)

นายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ประกาศยกระดับมาตรการ “สกัดเงินเทา” ให้เข้มข้นยิ่งขึ้น โดยเพิ่มการตรวจสอบธุรกรรมที่เข้าข่ายต้องสงสัย ทั้งบัญชีรับ-โอนเงินที่อาจเชื่อมโยงกับการพนันออนไลน์หรือมิจฉาชีพ ตลอดจนคุมเข้มผู้ให้บริการทางการเงินทุกประเภทภายใต้การกำกับของ ธปท. ตั้งแต่ธนาคารพาณิชย์ ร้านแลกเงิน ผู้ให้บริการโอนเงิน ไปจนถึง e-Wallet เพื่อให้สามารถติดตามเส้นทางการเงินผิดปกติได้อย่างรัดกุมและทันต่อรูปแบบการทุจริตทางการเงินที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว

นอกจากนี้ธปท.ยังร่วมมือกับ ปปง. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปิดช่องโหว่การฟอกเงินและเสริมความปลอดภัยให้ระบบการเงินไทยในระยะยาว

นายวิทัย กล่าวว่า การประกาศยกระดับกระบวนการติดตามและตรวจสอบธุรกรรมที่ไม่พึงประสงค์ให้เข้มข้นขึ้น เพื่อป้องกันและเร่งแก้ไขปัญหาทุนเทา รวมทั้งสกัดกั้นการใช้ระบบการเงินในกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย ได้แก่

(1) ยกระดับการติดตามและการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า (Customer Due Diligence) ซึ่งรวมถึงการให้ธนาคารพาณิชย์ให้ความสำคัญกับการตรวจสอบธุรกรรมต้องสงสัยในการรับหรือโอนเงินจากบัญชีเงินฝาก (อาทิ บัญชีที่ใช้ในการพนันออนไลน์ บัญชีที่ถูกใช้โดย scammer) และรายงานความผิดปกติให้ ธปท. ทราบ

โดย ธปท. จะพิจารณาปรับปรุง/ออกคำสั่งและกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินการให้ชัดเจนขึ้น และช่วยสนับสนุนภารกิจของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ในระยะต่อไป

(2) ยกระดับการกำกับดูแลและตรวจสอบผู้ให้บริการทางการเงินภายใต้การกำกับของธนาคารแห่งประเทศไทยให้เข้มงวดยิ่งขึ้น ซึ่งรวมถึง Authorized Money Transfer Agent, Authorized Money Changer, ผู้ให้บริการ e-Wallet และการตรวจสอบธุรกรรมทองคำที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำที่ผิดกฎหมาย เพื่อให้สามารถติดตามและตรวจสอบเส้นทางการเงินที่อาจเกี่ยวข้องกับการทุจริตได้อย่างครอบคลุม ทันต่อรูปแบบภัยทุจริตทางการเงินที่ปรับเปลี่ยนอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ธปท. ยังได้เร่งผลักดันการแลกเปลี่ยนข้อมูลและสนับสนุนการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานและคณะทำงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด ในการป้องกันหรือจำกัดธุรกรรมที่ไม่พึงประสงค์ให้ได้ผลในวงกว้างและรวดเร็วขึ้นต่อไป