'ปิติ' ซีอีโอทีทีบี ชี้เงินบาทแข็งผิดปกติ แนะรัฐคุมเงินนอกระบบ-ทอง-คริปโต

06 ก.ย. 2568 | 03:09 น.
อัปเดตล่าสุด :06 ก.ย. 2568 | 03:09 น.

ปิติ ตัณฑเกษม ซีอีโอทีทีบี ชี้ปัญหาค่าเงินบาทแข็งสวนเศรษฐกิจจริง มาจากเงินนอกระบบ การไหลผ่านทองคำและคริปโต จี้รัฐและหน่วยงานกำกับเร่งยกระดับมาตรการคุมเข้ม ลดความบิดเบือนในระบบการเงิน

KEY

POINTS

  • นายปิติ ตัณฑเกษม ซีอีโอทีทีบี ชี้ว่าค่าเงินบาทแข็งค่าผิดปกติ ไม่สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัว
  • สาเหตุหลักมาจากการไหลเวียนของเงินในเศรษฐกิจนอกระบบ เช่น ทองคำ คริปโตเคอร์เรนซี และเงินสด ซึ่งบิดเบือนกลไกตลาด
  • เสนอให้ภาครัฐเร่งควบคุมและกำกับดูแลธุรกรรมนอกระบบเหล่านี้อย่างเข้มงวด เพื่อสร้างเสถียรภาพและป้องกันความเสียหายต่อเศรษฐกิจ

ท่ามกลางเศรษฐกิจไทยที่ยังชะลอตัว แต่ค่าเงินบาทกลับแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง สร้างความกังวลต่อภาคการส่งออกและการแข่งขัน  

ก่อนหน้านี้คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) แสดงความกังวลต่อทิศทางค่าเงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่อง แม้เศรษฐกิจไทยยังอยู่ในภาวะชะลอตัว ชี้เป็นการแข็งค่าที่ไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐาน และมีความเชื่อมโยงกับธุรกรรมนอกระบบ ทั้งราคาทองคำที่พุ่งขึ้น การเคลื่อนไหวของคริปโตเคอร์เรนซี รวมถึงการโอนเงินกลับประเทศของแรงงานต่างด้าวที่ไม่ได้ผ่านระบบสถาบันการเงิน

กกร. ระบุว่า ปัจจัยเหล่านี้เป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้เกิดความผิดเพี้ยนในการเกินดุลบัญชีเดินสะพัด โดยธุรกรรมจำนวนมากไม่สามารถจำแนกที่มาได้ชัดเจน และไปสะท้อนอยู่ในบัญชี “Errors & Omissions” ซึ่งสร้างปัญหาด้านความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือของระบบเศรษฐกิจไทย

เศรษฐกิจไทยควรถูกมองในสองมิติ (“Do”)- (“Don’t”) 

นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทยธนชาต (ทีทีบี) อธิบายว่า เศรษฐกิจไทยควรถูกมองในสองมิติ คือสิ่งที่ต้องทำ (“Do”) เพื่อต่อยอดและยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน และสิ่งที่ต้องห้าม (“Don’t”)  ซึ่งรวมถึงการปล่อยให้เศรษฐกิจนอกระบบเติบโตจนกลายเป็นช่องทางเคลื่อนย้ายเงินผิดกฎหมาย เช่น เงินสด ทองคำ คริปโตเคอร์เรนซี และวอลเลตดิจิทัล

เรื่องที่ต้องจัดการคือ Cash Economy ต้องลดลงให้มากที่สุด ทองคำ ซึ่งเคยเป็นเครื่องมือในการเคลื่อนเงินนอกระบบ ต้องถูกกำกับดูแลเข้มขึ้น คริปโต ซึ่งตอนนี้เชื่อมโยงกับบัญชีม้าจำนวนมาก จนกลายเป็นเหมือน ‘นรกแตก’ ของระบบ และ Wallet ที่มาตรฐานการกำกับต่ำกว่าธนาคารมาก ทำให้เงินจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไหลผ่านช่องทางเหล่านี้ออกไปจนตามไม่เจอ

Underground Economy หายไป -On-ground economy แข็งแรงขึ้น

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทยธนชาต (ทีทีบี) กล่าวอีกว่า ธนาคารแห่งประเทศไทยยังคงยืนยันจุดยืนว่า “สินทรัพย์ดิจิทัล” ไม่สามารถใช้เป็นสื่อกลางในการชำระค่าสินค้าและบริการได้ เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อเสถียรภาพการเงิน

นี่คือเหตุผลที่ธนาคารแห่งประเทศไทยยืนยันชัดเจนว่า Digital Asset ไม่สามารถใช้เป็นสื่อกลางการชำระเงินได้ เพราะหากปล่อยให้เกิดขึ้นจริง ระบบเศรษฐกิจจะวุ่นวายทันที

ภาคเอกชนย้ำว่าการจัดการปัญหานี้ต้องทำอย่างเร่งด่วน ไม่เช่นนั้นเงินบาทจะแข็งค่าอย่างไร้เหตุผลต่อไป และบั่นทอนโอกาสการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในภาพรวม

ถ้าเงินดำ เงินเทายังคงหมุนเวียนอยู่ ก็เหมือนใช้เหล็กไม่มีคุณภาพสร้างตึก สุดท้ายอาจถล่มลงมา เราต้องหาทางทำให้ Underground Economy หายไป และทำให้เศรษฐกิจในระบบ (On-ground economy) แข็งแรงขึ้น