ซีอีโอทีทีบี เสนอ 3 เสาหลักแก้หนี้ครัวเรือน ชูพิมพ์เขียว Reinvent Thailand

04 ก.ย. 2568 | 23:40 น.
อัปเดตล่าสุด :04 ก.ย. 2568 | 23:42 น.

ซีอีโอทีทีบี เสนอทางออกแก้หนี้ครัวเรือนแบบยั่งยืน ผ่าน 3 เสาหลักด้านเครดิตและการปล่อยกู้ พร้อมผลักดันแผน Reinvent Thailand เป็นพิมพ์เขียวเศรษฐกิจใหม่

KEY

POINTS

  • ซีอีโอ ttb เสนอแนวทางแก้หนี้ครัวเรือนเชิงโครงสร้างผ่าน 3 เสาหลัก ได้แก่ การรายงานข้อมูลเครดิตบูโรให้ครบถ้วน, การจัดทำเครดิตสกอร์มาตรฐาน, และการกำหนดดอกเบี้ยที่โปร่งใสตามคะแนนเครดิต
  • ชูแนวคิด "Reinvent Thailand" ซึ่งเป็นพิมพ์เขียวเศรษฐกิจระยะยาวที่ออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญ ไม่ใช่ฝ่ายการเมือง เพื่อให้ประเทศมีทิศทางที่ชัดเจนและยั่งยืน
  • เป้าหมายคือการสร้างระบบการปล่อยสินเชื่อที่มีคุณภาพและมีความรับผิดชอบ ลดปัญหาการกู้เกินตัว โดยให้ฝ่ายการเมืองเป็นผู้ขับเคลื่อนตามแผนที่วางไว้

ปัญหาหนี้ครัวเรือนไทยกำลังกลายเป็นระเบิดเวลาที่ฉุดรั้งเศรษฐกิจทั้งระบบ นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทยธนชาต (ttb) มองว่า การแก้ปัญหาด้วยมาตรการเฉพาะหน้า เช่น การแจกเงินเพื่อประคองการใช้จ่าย เป็นเพียงการแก้ปัญหาปลายเหตุ

หนี้ครัวเรือน คือ ปัญหาเชิงโครงสร้าง กู้ไปทำธุรกิจก็เจ๊ง เจ๊งเพราะไม่มีการจับจ่าย การบริโภค นักท่องเที่ยวต่างประเทศก็ลดลง บริษัทขนาดใหญ่พอแข่งกับชาวโลกลําบาก ก็ลงมาแย่งพื้นที่ทำมาหากิน พอเป็นแบบนี้ก็เลยต้องให้ สถาบันการเงินของรัฐเข้ามา ประชาชนอยู่ไม่ได้งั้นแจกเงินเพื่อให้อยู่ได้ มันไม่ยั่งยืน

โดยเสนอว่า ประเทศไทยจำเป็นต้องสร้างโครงสร้างใหม่ในการจัดการหนี้ครัวเรือน โดยมี 3 เสาหลักสำคัญ ได้แก่ทุกสถาบันการเงินต้องรายงานข้อมูลเข้าระบบเครดิตบูโร (NCB) อย่างครบถ้วน จัดทำเครดิตสกอร์มาตรฐานให้ประชาชนทุกคน เพื่อสะท้อนความน่าเชื่อถือทางการเงิน กำหนดอัตราดอกเบี้ยที่โปร่งใส ผูกกับคะแนนเครดิต เพื่อให้ทั้งผู้กู้และผู้ให้กู้เข้าใจตรงกัน

หากทั้งสามเสาหลักเกิดขึ้นจริง จะช่วยให้การปล่อยกู้มีคุณภาพมากขึ้น ลดการกู้เกินตัว และสร้างระบบการปล่อยกู้ที่มีความรับผิดชอบ

ซีอีโอ ttb ยังชี้ว่า การแก้ไขเชิงโครงสร้างต้องอาศัยพิมพ์เขียวเศรษฐกิจที่ออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญจริง ๆ เช่น สมาคมธนาคารไทย สภาอุตสาหกรรม ตลาดหลักทรัพย์ และธนาคารแห่งประเทศไทย ขณะที่บทบาทของฝ่ายการเมืองควรเป็นผู้ขับเคลื่อนและดำเนินการตามแผน ไม่ใช่เปลี่ยนทิศทางไปมาเพราะการเปลี่ยนรัฐบาล

ถ้าเรามีพิมพ์เขียวของประเทศซึ่งออกแบบโดยคนกลุ่มหนึ่งซึ่งไม่มีความสนใจจะไปอยู่ในการเมืองที่ร่วม กันเขียนขึ้นมาแล้วว่าประเทศควรไปทางไหน เช่น หนี้ครัวเรือน ควรต้องแก้อย่างไร แบงค์ต้องเปลี่ยน แบบไหน ประชาชนต้องเปลี่ยนอย่างไร รัฐบาลต้องแก้กฎหมายไหม นี่คือแผนของประเทศภายใต้ Reinvent Thailand

 

แม้การเมืองใน 4 เดือนข้างหน้ายังไม่ชัดเจน แต่ปิติย้ำว่านี่คือจังหวะที่ประเทศไทยควรใช้ในการผลักดันโครงการ Reinvent Thailand เพื่อวางรากฐานเศรษฐกิจระยะยาว โดยเฉพาะการแก้หนี้ครัวเรือนที่กำลังบานปลาย

นอกจากนี้ยังฝากถึงภาคประชาชนว่า การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นได้จริง ต้องอาศัยพลังจาก Active Citizen ที่ร่วมกันผลักดันให้แนวคิดนี้กลายเป็นฉันทามติของสังคม กระจายออกไป หากสังคมส่งเสียงอย่างต่อเนื่อง