ไทยพาณิชย์ เดินหน้า ปล่อยกู้ดิจิทัล "บ้าน-รถ"

03 พ.ค. 2566 | 08:47 น.
อัปเดตล่าสุด :03 พ.ค. 2566 | 08:47 น.

ไทยพาณิชย์รุกปล่อยสินเชื่อดิจิทัล “บ้าน-รถ” ไตรมาส 3 หลังเปิดตัว “สินเชื่อUPเงินทันใจ” สัปดาห์เดียวผลตอบรับดีเกินคาด ตั้งเป้าสิ้นปี66 แตะ 1 หมื่นล้านบาท เดินหน้าอัพเกรด SCB connect-SCB Easy

ปี 2566 ธนาคารไทยพาณิชย์ ชู ยุทธศาสตร์ดาวเหนือ ภายใต้วิสัยทัศน์ “Digital Bank with Human Touch” สู่ธนาคารดิจิทัลอย่างครบวงจร (Digital Bank: D Bank) โดยปรับโครงสร้างองค์กรด้วยการรรวมงาน ทั้งด้านดิจิทัลแบงก์, เทคโนโลยีสารสนเทศและปฎิบัติการเข้าด้วยกัน เพื่อให้ครอบคลุมทั้งระบบการให้บริการ การสร้างรายได้และการเติบโตของธนาคารในอนาคต โดยเฉพาะการก้าวเป็นที่หนึ่งในใจลูกค้าทุกกลุ่มภายในปี 2568

นายชาลี อัศวธีระธรรม รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มงาน Digital Banking ธนาคาร ไทยพาณิชย์เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า หลังธนาคารเปิดให้บริการ “สินเชื่อ UP เงินทันใจ”สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีผ่านแอป SCB Easy แค่เพียง 1 สัปดาห์ผลตอบรับดีเกินคาด เบื้องต้นคาดว่า จะมีวงเงินสินเชื่อหลักพันล้านบาท จึงคาดว่าภายในสิ้นปีนี้ ยอดความต้องการสินเชื่อจะเติบโตถึงหลัก 1 หมื่นล้านบาท

นายชาลี อัศวธีระธรรม รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มงาน Digital Banking ธนาคาร ไทยพาณิชย์ 

ทั้งนี้ปัจจุบัน SCB Easy มีฐานลูกค้ากว่า 15 ล้านราย ใช้บริการทั้งโอน เติม จ่ายและอนุมัติสินเชื่อดิจิทัล(Digital Lending) จากปัญญาประดิษฐ์(AI) ซึ่ง สินเชื่อUPเงินทันใจเป็นวงเงินหมุนเวียนสำหรับลูกค้าที่เดินบัญชีกับไทยพาณิชย์อยู่แล้ว โดยลูกค้าสามารถสมัครขอสินเชื่อผ่านมือถือได้ โดยไม่ต้องยื่นเอกสารเพิ่มและจะได้รับการโอนเงินเข้าบัญชีทันที ซึ่งคาดว่า ภายในไตรมาส 3 จะต่อยอดสินเชื่อดิจิทัลไปยังสินเชื่อบ้านและสินเชื่อรถด้วย

“ถ้าเป็นลูกค้าที่ผูกบัญชีกับไทยพาณิชย์อยู่แล้วหรือ ผู้ที่ใช้ช่องทางอิเล็กทรอนิกส์กับเรา ซึ่งทุกครั้งที่มีการเดินบัญชี AI จะนำข้อมูลไปประกอบการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ ซึ่งจะทราบถึงวงเงินและดอกเบี้ยที่ลูกค้าจะได้รับ ส่วนลูกค้าที่ยังไม่เดินบัญชีกับเรา หากต้องการขอสินเชื่อ เราจะมีโครงการ D Statement ซึ่ง AI จะปรับตัวเลขหรือวิเคราะห์ใหม่เมื่อเห็นภาพรวมของลูกค้า ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ สะท้อนถึงดิจิทัลแบงก์กิ้งในอนาคตที่นำข้อมูลและและความฉลาดของเทคโนโลยีมาใช้โดยจะใช้เอกสารน้อยลง”นายชาลีกล่าว

นายชาลีกล่าวต่อว่า หากย้อนกลับไปช่วงที่ตนได้เข้ามาร่วมงานกับไทยพาณิชย์ เมื่อเดือนเมษายนปี 2563 ไทยพาณิชย์มุ่งเน้นการลงทุนและสร้างฐานข้อมูล เรียกว่ายุคแรกหรือ Episode1 ต่อมาปี 2564 เปลี่ยนเป็นก่อตั้งหน่วยงาน Digital Banking ถือเป็น Episode2 

เริ่มต้นจากปี 2566 นี้ จะเป็น Episode3 ซึ่งไทยพาณิชย์อยากจะเป็น Digital Banking and Human Touch หมายความว่า Episod3 นอกจากนำฐานข้อมูลที่มีอยู่มาสร้างประโยชน์ เราจะต้องเพิ่มบริการให้ลูกค้ารู้สึกประทับใจทุกช่องทางที่เข้ามาใช้บริการที่ไร้รอยต่อ (Seamless Omni Channel) โดยมุ่งสร้างความเป็นเลิศในกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-บน

ไทยพาณิชย์ เดินหน้า  ปล่อยกู้ดิจิทัล "บ้าน-รถ"

สำหรับกลุ่ม SCBx อย่างบริษัทลูกต่างๆ รวมทั้ งCardX จะทำหน้าที่ดูแลกลุ่มลูกค้าตั้งแต่ระดับกลางลงถึงระดับรากหญ้า ทั้งกลุ่มผู้ใช้บริการทางการเงินบางผลิตภัณฑ์ (Under-Banked/Under-Served) และกลุ่มคนที่เข้าไม่ถึงบริการทางการเงิน(Unbanked)

ดังนั้น ในส่วนของ Episode3 นอกจากลูกค้าเอสเอ็มอีที่เดินบัญชีกับไทยพาณิชย์ผ่านการใช้งานแอป SCB Easy ยังมีแพลตฟอร์มสำหรับธุรกิจที่สามารถพัฒนาต่อยอดได้อีกมหาศาล เช่น ฐานข้อมูลการชำระเงินซัพพลายเออร์ หรือ จ่ายเงินเดือนพนักงาน(Pay Roll)  ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในอนาคตจะเชื่อมต่อระหว่างธุรกิจกับบุคคลได้อย่างไร้รอยต่อ

นอกจากนั้น ภายในปีนี้จะเสนอบริการเพิ่มเติม เช่น ลูกค้าเอสเอ็มอีที่เดินบัญชีกับไทยพาณิชย์ หรือเจ้าของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ธนาคารจะเสนอบริการบริหารความมั่งคั่งหรือต่อยอด Digital Wealth ด้วยแนะนำบริการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ เพื่อความมั่งคั่งทางการเงินหรือบริการประกันความเสี่ยงหรือปกป้องธุรกิจผ่านประกันที่ครอบคลุมทั้งธุรกิจ สุขภาพและชีวิต ซึ่งธนาคารตั้งเป้าจะมีลูกค้า Digital Wealth ประมาณ 1 ล้านราย

ขณะเดียวกัน จะมีเทคโนโลยีเข้ามาต่อยอดหรือสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้าเพื่อไปสู่เป้าหมาย Digital Banking and Human Touchเช่น บริการ Just 4Uที่อยู่บน SCB Easy/ SCB Connect ขณะนี้ Just4U มีผู้ใช้บริการรายเดือนอยู่ราว 2 ล้านรายตอนนี้อยู่ระหว่างการจะนำ Chatbot มาต่อยอดประมาณปลายปีนี้

ต่อไปลูกค้ากว่า 15 ล้านราย จะได้รับประโยชน์ในการสอบถามข้อมุลย้อนหลัง 4 เดือนที่ผ่านมา เช่น ค่าน้ำประปา หรือค่าไฟฟ้า โดย Chatbot จะให้ข้อมูลรายละเอียดการใช้จ่ายทั้งปัจจุบันและย้อนหลัง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กลุ่ม SCBx กำลังทำงานร่วมกับไมโครซอฟท์ เพื่อจะพัฒนาบริการฟีเจอร์ใหม่ๆ แต่ยังไม่สามารถระบุไทม์ไลน์ที่ชัดเจนได้

“ปีนี้เราให้ความสำคัญทำ Mobile Banking ให้มีความเสถียร 99.99% คาดว่า จะเสร็จสมบูรณ์ภายในปีนี้ ส่วนที่สองคือ นำ AI มาช่วยในการอนุมัติสินเชื่อ ตั้งเป้ารายได้ที่จะมาจากดิจิทัล 25%จากรายได้ทั้งหมดของแบงก์ แต่รายได้เฉพาะสินเชื่อใหม่ต้องมีอย่างน้อย 75% โดยปีที่ผ่านมา สินเชื่อใหม่ที่เป็นดิจิทัลมีประมาณ 30,000 ล้านบาท” นายชาลีกล่าว

 

หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,884 วันที่ 4 - 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2566