ในภาวะที่ดอกเบี้ยไทยยังต่ำต่อเนื่อง ผลตอบแทนจากดอกเบี้ยออมทรัพย์ต่อปี ( เฉลี่ย 5 แบงก์ใหญ่ )ยังต่ำติดดิน 0.30-0.50 % และฝากประจำที่ 1.00-1.35% ทำให้การออมในรูป " สลากออมทรัพย์" ของ 2 แบงก์รัฐคือ สลากธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส. (ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร )จึงยังได้รับความสนใจจากประชาชนสูง เพราะนอกจากดอกเบี้ยจะได้รับการยกเว้นภาษี ที่สำคัญยังมีรางวัลใหญ่ให้ลุ้นสูงสุดถึง 10 ล้านบาท 36 งวด 36 เดือน
[caption id="attachment_98126" align="aligncenter" width="700"]
จุดเหมือนและแตกต่างระหว่างสลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. และธนาคารออมสิน[/caption]
แม้ที่ผ่านมาจะมีเสียงบ่นอุบจากบรรดาแฟนคลับ 2 แบงก์รัฐ ว่าทำไมดอกเบี้ยสลากจึงได้ร่วงลงเร็ว หน่ำซ้ำยังปรับลูกเล่นหั่นรางวัลลงอีก แค่ยังคงรางวัลสูงสุด คือ10 ล้านบาทและรางวัลเลขท้าย 4 ตัว , 5 ตัวให้ล่อใจ
ดอกเบี้ยสลากออมทรัพย์ "หด"
จากการสำรวจของ "ฐานเศรษฐกิจ"พบว่าตั้งแต่ปลายปี 2556 เป็นต้นมา อัตราดอกเบี้ยสลากออมสินได้ทยอยปรับลด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีนี้ จากที่ซื้อหน่วยละ50 บาท เมื่อปี 2556 ถือครบ 3 ปี จ่ายดอกเบี้ยหน่วยละ 3 บาท หรือเฉลี่ยต่อปีให้ผลตอบแทน 2% มาเมื่อกลางปี 2557 ,ปี 2558 ,ปี 2559 และล่าสุดเดือนสิงหาคม 2559 สลากออมสินให้ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปี ลดลงเป็น 1.50 % , 1.00% ,0.67% และ 0.50% ตามลำดับ
ขณะที่สลากทวีสินธ.ก.ส.หน่วยละ500 บาท อายุ 3 ปี ช่วงเดียวกันคือปี 2556 ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีที่ 1.50% ก่อนจะปรับลดลงกลางปี 2557,2558 ,2559 เฉลี่ยต่อปีเหลือ 1.20%,0.93% , 0.83% ตามลำดับ และสำหรับสลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส.ชุดที่ 3 ที่จำหน่าย 19 กันยายน 2559 ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีที่ 0.42%
ออมสินรับต้นทุนพุ่งกว่า 2%
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการ ธนาคารออมสิน เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"ว่าออมสินได้ออกสลาก ออกมาอย่างต่อเนื่องและได้เพิ่มยอดอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยปัจจุบันสลากออมสินมีถึง 750,000 ล้านบาท คิดเป็น 35% ของพอร์ตเงินฝาก และมีต้นทุนที่สูงกว่าเงินฝากประเภทอื่นด้วย โดยมีต้นทุนเฉลี่ย ( ดอกเบี้ยบวกเงินรางวัล ค่าดำเนินงานฯลฯ) สูงถึง2.5% เทียบกับเงินฝากประเภทอื่น ๆที่มีต้นทุนเฉลี่ยแค่1% เศษๆ เท่านั้น
ขณะที่สลากออมสินล็อตใหม่ (งวดที่ 92 ) ต้นทุนก็เกือบ 2% และถือเป็นเงินฝากที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดในตลาด
"สลากออมสิน งวด 92 ที่ขายอยู่ในปัจจุบัน หน่วยละ 50 บาท เมื่อถือครบ 3 ปี จะจ่ายดอกเบี้ย 0.75% หรืออีกนัยหนึ่งลงทุน100 บาทถือครบ 3 ปี จ่ายดอกเบี้ย 1.50% ซึ่งสูงกว่าตลาด และยุคนี้เราต้องบริหารสภาพคล่องและต้นทุนไปพร้อมๆ " นายชาติชาย กล่าว
ธ.ก.ส.ออก 6 หมื่นลบ. 19 ก.ย.นี้
ด้านนายสมชาย อารยชาติสกุล รองผู้อำนวยการฝ่ายเงินฝาก ธ.ก.ส. กล่าวกับ"ฐานเศรษฐกิจ"ว่าในวันที่ 19 กันยายนที่จะถึงนี้ ธ.ก.ส. จะออกสลากออมทรัพย์ ชุดที่ 3 วงเงินรับฝาก 60,000 ล้านบาท จำหน่ายหน่วยละ 100บาท อายุรับฝาก 3 ปี ลุ้นรางวัล 36 ครั้ง(งวด) ตลอดระยะเวลา 3ปี สูงสุดที่ 10ล้านบาท โดยหากถือครบ 3 ปี จะได้รับดอกเบี้ยหน่วยละ 1.25บาท เฉลี่ยผลตอบแทนต่อปี 0.42 บาท กรณีที่ถอนคืนก่อนครบกำหนดจะไม่ได้รับดอกเบี้ย และผู้ที่ฝากไม่ครบ 3 เดือน จะถูกหักค่าส่วนลดจากมูลค่าสลาก 2 บาทต่อหน่วย
"สลากที่ออกคราวนี้ เป็นการทดแทนของเดิมที่จะหมดไปที่มีประมาณ 42,000 ล้านบาท ส่วนอีกกว่า 10,000 ล้านบาท เป็นการเพิ่มตามแผนงานของธ.ก.ส. "นายสมชาย กล่าว พร้อมแจงถึงสาเหตุที่ธ.ก.ส.จำเป็นต้องปรับลดดอกเบี้ยฝากสลากลงว่า
"เป็นไปตามแนวโน้มดอกเบี้ยในตลาด ซึ่งคาดจะยังทรงตัวต่ำในลักษณะนี้อีกระยะ ดังจะเห็นได้ดอกเบี้ยนโยบายของกนง. (คณะกรรมการนโยบายการเงิน) คงที่ 1.50 % มานานและตลาดก็จ่ายดอกเบี้ยเงินฝากต่ำกว่า 1.50 % อยู่แล้ว และมองภาพรวมสินเชื่อก็ยังขยายไม่มาก ทั้งนี้ธ.ก.ส.จะรักษาสัดส่วนการออมในรูปสลากออมทรัพย์ ที่ปัจจุบันมีประมาณ 250,000 ล้านบาท ในสัดส่วนกว่า 20 % ของพอร์ตเงินฝากรวมในรักษานี้ต่อไป ส่วนอีก 80% ที่เหลือมาจากเงินฝากออมทรัพย์,เงินฝากประจำ ซึ่งลูกค้าธนาคารส่วนใหญ่จะเป็นเกษตรกรและส่วนราชการ"
เทียบผลตอบแทนดีกว่าฝากประจำ
อย่างไรก็ดีแม้ สลากออมทรัพย์ธ.ก.ส. ดอกเบี้ยจะปรับลง แต่เมื่อเทียบแล้วยังให้ผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝากประจำ ยกตัวอย่างออมสลากธ.ก.ส. วงเงิน 100,000 บาท (ให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับการออมวงเงิน 500,000 บาท) จะให้ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีที่ 1.617 % (รวมดอกเบี้ย บวกรางวัลเลขท้าย 3 ตัวและ 4 ตัว ) หรือเท่ากับ 1.902% ( กรณีที่คิดรวมภาษีดอกเบี้ย 15%) และกรณีที่ฝาก 1 ล้านบาท จะให้ผลตอบแทนที่ 1.737% หรือเท่ากับ 2.043 % (กรณีคิดรวมภาษี) ซึ่งยังสูงกว่าดอกเบี้ยฝากประจำของ 5 ธนาคารขนาดใหญ่ ที่ปัจจุบันจ่ายระหว่าง 1.00-1.35% และยังต้องเสียภาษีดอกเบี้ยหัก ณที่จ่ายอีก 15 % (อ่านตารางประกอบ)
ไม่ต้องสงสัยว่าการออมในรูปสลากออมทรัพย์ จึงยังต้องใจประชาชนในสถานการณ์ที่ดอกเบี้ยไทยขาลง เพราะนอกจากเป็นการออมที่ไม่มีความเสี่ยง ไม่เสียภาษีดอกเบี้ย ยังให้ผลตอบแทนที่แน่นอน ต่างจากตลาดหุ้นที่ยังมีความผันผวน หรือการลงทุนในทองคำที่ขาดความชัดเจน สำคัญยังมีโอกาสลุ้นรางวัลก้อนโต 10 ล้านบาท
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,192 วันที่ 15 - 17 กันยายน พ.ศ. 2559