อานิสงส์ศก.ฟื้น-รถคันแรกครบกำหนดล็อตแรก 3.5 หมื่นคัน ดันกำลังซื้อโค้งท้ายกระเตื้อง กรุงศรีจับมือดีเวลอปเปอร์หัวเมืองใหญ่ 250 โครงการ ปล่อยสินเชื่อบ้านนิวโลน ครึ่งปีหลัง 3.2 หมื่นล้านบาท ดันทั้งปีเพิ่ม 6.5 หมื่นล้านบาท โต 30 % พร้อมลอนช์แคมเปญดอกเบี้ยคงที่ 4%,5% นาน 5,7,ปี ดักดอกเบี้ยเฟดขาขึ้น ด้านซีไอเอ็มบีไทย เจาะตลาดผู้ซื้อบ้านหลังแรก ประวัติดี ออกดอกเบี้ยพิเศษคงที่ 3 ปีแรก เฉลี่ย 3.69% ฟรีค่าจดจำนอง ตั้งเป้า 1 พันล้านบาท
[caption id="attachment_97275" align="aligncenter" width="1920"]
สินเชื่อบ้านกรุงศรี เทียบภาพรวมสินเชื่อบ้านทั้งระบบ ปีนี้[/caption]
นายณัฐพล ลือพร้อมชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึง แผนสินเชื่อที่อยู่อาศัยกรุงศรีฯ โดยประมาณทั้งปีจะปล่อยสินเชื่อใหม่ ( New loan ) ได้ 65,000 ล้านบาท เติบโต 30% จากสิ้นปี 2558 โดยในครึ่งปีหลังคาดจะปล่อยสินเชื่อได้เพิ่ม 31,000-32,000 ล้านบาท ดันยอดสินเชื่อคงค้างสิ้นปีเป็น 200,000 ล้านบาท หรือเติบโต 25% จากสิ้นปี 2558 ที่ 160,157 ล้านบาท คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด (มาร์เก็ตแชร์) ราว 6% ของยอดสินเชื่อคงค้างทั้งระบบปีนี้ที่แตะ 3.35 ล้านล้านบาท (รวมธนาคารออมสิน, และธ.อาคารสงเคราะห์ ) ขณะที่มีมาร์เก็ตแชร์สินเชื่อบ้านปล่อยใหม่ราว 9 %
โดย 6 เดือนแรกที่ผ่านมา สินเชื่อบ้านใหม่กรุงศรี ปล่อยไป 34,000 ล้านบาท เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึง 95% และมียอดสินเชื่อคงค้าง 180,479 ล้านบาท เติบโตจากสิ้นปี 2558ที่ 12.7% เทียบกับภาพรวมตลาดสินเชื่อบ้านทั้งระบบ 6 เดือนแรก เป็นสินเชื่อใหม่ 290,889 ล้านบาท เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 5.6% และมียอดสินเชื่อคงค้าง 3,217,570 ล้านบาท เติบโตจากสิ้นปีที่แล้ว 4% โดยกรุงศรียังสามารถบริหารความเสี่ยง ที่ระดับหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) 2.5- 2.6% ของยอดคงค้างสินเชื่อบ้าน
สำหรับภาพรวมตลาดสินเชื่อบ้านนิวโลนปีนี้ คาดจะเติบโต 3-5% หรือเป็นยอดสินเชื่อ 590,000-610,000 ล้านบาท ขณะที่ยอดสินเชื่อคงค้างทั้งระบบสิ้นปี 2559 คาดแตะ 3,350,000 ล้านบาท หรือเติบโต 8-10%
ทั้งนี้ปัจจัยบวกที่หนุนสินเชื่อในครึ่งปีหลัง มาจากภาวะเศรษฐกิจไทยที่ค่อย ๆ ฟื้นตัว ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคดีขึ้น โดยเฉพาะโครงการรถยนต์คันแรกกว่า 1 ล้านคัน ที่ทยอยครบกำหนดในเดือนกันยายนนี้ ล็อตแรกกว่า 35,000 คัน รายได้จากคนจึงน่าจะเพิ่มจากกลุ่มนี้ รวมถึงรายได้ภาคการเกษตรเริ่มกลับคืนมา ส่งผลให้สินเชื่อบ้านในต่างจังหวัดเริ่มกลับมากระเตื้อง ข้อมูลดีเวลอปเปอร์ของกรุงศรี คาดว่าในไตรมาสสุดท้ายจะมียอดโอนคอนโดฯไม่น้อยกว่า 50,000 ยูนิต ประกอบกับยอดโอนที่อยู่อาศัยแนวราบยังเติบโตอย่างสม่ำเสมอ
ส่วนปัจจัยลบยังขึ้นกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ดีจากการที่เฟดมีแนวโน้มจะปรับดอกเบี้ยขึ้นในเดือนธันวาคมนี้ ดังนั้นเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในการวางแผนการเงินระยะยาว ในช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น กรุงศรีฯ จึงได้ลอนช์ แคมเปญ อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4 % นาน 5 ปี และอัตราดอกเบี้ยคงที่ 5% นาน 7 ปี (หลังครบกำหนดคิดดอกเบี้ย MRR – 1.60% ปัจจุบัน MRR อยู่ที่ 7.70%)
แคมเปญดังกล่าวจะร่วมกับ 6 ดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่ คือ แลนด์แอนด์เฮ้าส์ , คิวเฮ้าส์(ควอลิตี้เฮ้าส์ ), เอพี, เอสซีแอสเสท, ศุภาลัย และพฤกษา เจาะกลุ่มผู้ซื้อบ้านระดับ 3 ล้านบาทขึ้น ซึ่งคาดจะช่วยเพิ่มยอดสินเชื่อใหม่ในโค้งท้ายปีนี้กว่า 2,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันกรุงศรี ปล่อยสินเชื่อบ้านเป็นสัดส่วนระหว่างกรุงเทพฯปริมณฑล และต่างจังหวัด 60 ต่อ 40 เพิ่มจากเดิมที่ 70 ต่อ 30 โดยเฉพาะมาจากหัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัดที่โตแบบก้าวกระโดด ขณะที่ยอดอนุมัติยังทรงตัวที่ 50-60 % ของจำนวนผู้ยื่นกู้
"กลยุทธ์ในช่วงครึ่งปีหลัง กรุงศรีจะมุ่งขยายตลาดไปยังกลุ่มดีเวลอปเปอร์ชั้นนำในระดับท้องถิ่นตามหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศ ที่มีมากกว่า 250โครงการ และผลักดันผลิตภัณฑ์ทางเลือก "โฮมฟอร์แคช" (Home for Cash) สินเชื่ออเนกประสงค์เพื่อเป็นทางเลือก โดยอนุมัติวงเงินสูงสุด 80% และให้ผ่อนนานสูงสุดถึง 30 ปี ส่วนนโยบายสินเชื่อในปีต่อๆไป 2560 ยังรักษาการเติบโตปีละ 50,000 -70,000 ล้านบาท เพราะเป็นระดับที่สามารถรักษาคุณภาพสินเชื่อได้อย่างยั่งยืน " นายณัฐพล กล่าว
นางสาวอรอนงค์ อุดมก้านตรง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผลิตภัณฑ์สินเชื่อรายย่อย สายธุรกิจรายย่อย บมจ.ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวว่า ภาพรวมการแข่งขันในช่วงไตรมาสที่ 4 จะมีให้เห็นมากขึ้น โดยแคมเปญที่ใช้ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของอัตราดอกเบี้ย และค่าจดจำนอง
อย่างไรก็ดี แคมเปญอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่แม้จะมีให้เห็นต่อเนื่อง แต่ไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนัก แม้ว่าดอกเบี้ยเฟดจะเป็นขาขึ้นก็ตาม เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยไทยอาจไม่ได้ปรับตามในทันที เพราะต้องพิจารณาหลายปัจจัยประกอบกัน ทำให้ลูกค้าบางกลุ่มอาจไม่ชอบ และหากนำมาคิดเฉลี่ยอัตราดอกเบี้ยก็อาจไม่ได้แตกต่างกันมากนัก ส่วนใหญ่จึงเน้นดอกเบี้ยแบบลอยตัว (Floating Rate)
ในส่วนของธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ภายในสัปดาห์หน้าจะมีการออกแคมเปญใหม่ โดยเงื่อนไข ให้ผ่อนชำระไม่เกิน 50% ของรายได้ และมีเงินเดือนตั้งแต่ 3 หมื่นบาทต่อเดือนขึ้นไป มีประวัติการชำระหนี้ที่ดี และต้องเป็นการซื้อที่อยู่อาศัยหลังแรกเท่านั้น จะได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษคงที่ 3 ปีแรก เฉลี่ยอยู่ที่ 3.69% และยังได้รับฟรีค่าจดจำนองอีกด้วย ธนาคารตั้งเป้าวงเงินโครงการนี้เบื้องต้นอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท คาดว่าจะได้รับความสนใจจากตลาดจำนวนมากในช่วงที่เหลือของปี
นอกจากนี้ยังมีแคมเปญที่ออกก่อนหน้า สำหรับลูกค้าที่ผ่อนชำระค่างวดไม่สูงมาก เป็นลูกค้ามีประวัติการชำระที่ดีตามเครดิตสกอริ่งของธนาคาร ก็จะได้รับอัตราดอกเบี้ยปีแรกอยู่ที่ 0.99% หรือเฉลี่ย 3 ปีแรกอยู่ที่ 3.33% โดยไม่จำกัดโครงการที่อยู่อาศัย ซึ่งที่ผ่านมาได้ผลตอบรับค่อนข้างดีจากลูกค้า โดยธนาคารตั้งเป้าวงเงินโครงการดังกล่าวอยู่ที่ 4,000 ล้านบาท
ผลการดำเนินงานในช่วง 7-8 เดือนที่ผ่านมา ธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อมีหลักประกันไปแล้วทั้งสิ้นประมาณ 8,000 ล้านบาท เฉลี่ยปล่อยสินเชื่อเดือนละ 1,000 ล้านบาท คาดว่าทั้งปีจะสามารถปล่อยสินเชื่อได้ตามเป้าหมายอยู่ที่ 1.3-1.4 หมื่นล้านบาท จากพอร์ตสินเชื่อคงค้างปัจจุบันอยู่ที่ 6.4 หมื่นล้านบาท โดยมีหนี้เอ็นพีแอลระดับ 3.3%
"เราคาดว่าไตรมาสที่ 4 จะดีขึ้นกว่าไตรมาสที่ 3 ซึ่งเป็นไปตามฤดูกาล เพราะช่วงปลายปีจะเป็นช่วงพีกของการปิดยอด โครงการต่างๆ มีแคมเปญ และผู้บริโภคก็มีความต้องการดีขึ้น แต่ความต้องการจะเห็นชัดเจนขึ้นในปีหน้า เพราะโครงการรถคันแรกจะเริ่มปลดล็อก ทำให้ดีมานด์เริ่มกลับมา และเป็นดีมานด์จริงมีกำลังจะผ่อน"
ด้านนายชัยณรงค์ เอื้อสิทธิชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (บมจ.) กล่าวกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ภาพรวมการแข่งขันสินเชื่อที่อยู่อาศัย ยังไม่คึกคักมากนัก เนื่องจากแนวโน้มความต้องการสินเชื่อ และที่อยู่อาศัยใหม่ยังมีน้อย โดยเฉพาะในพื้นที่มีโอเวอร์ซัพพลาย ส่วนในพื้นที่กรุงเทพฯ อาจขยายตัวอยู่บ้าง แต่การเติบโตยังไม่สูงมากเมื่อเทียบกับในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ แคมเปญอัตราดอกเบี้ยที่ตลาดเล่นส่วนใหญ่ จะเป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ (Fixed Rate) ปีแรก และสูงสุดไม่เกิน 3 ปีแรกอย่างไรก็ดี ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาจะเห็นว่าภายหลังมีการปรับอัตราดอกเบี้ยทั้งในส่วนของผู้กู้รายใหญ่ชั้นดี(MLR) และอัตราดอกเบี้ยรายย่อยชั้นดี (MRR) ในตลาด ทำให้มีการออกแคมเปญ ลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัยลงตามต้นทุนการเงินของธนาคารที่ปรับลดลง
สำหรับทิศทางการเติบโตสินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารกรุงไทยในปีนี้ จะเห็นว่าช่วง 6-7 เดือนแรก ยอดสินเชื่อที่อยู่อาศัยปรับลดลงเล็กน้อยจากสิ้นปีก่อน เนื่องจากธนาคารไม่เน้นการเติบโตมากนัก สอดคล้องกับภาวะของตลาดโดยรวม ตลอดจนการคัดกรองลูกค้าที่เข้มงวดมากขึ้น เน้นการขยายตัวแบบมีคุณภาพ ส่งผลให้เอ็นพีแอล เกิดใหม่มีสัดส่วนน้อยลง โดยที่ยอดสินเชื่อคงค้างปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 3-4 แสนล้านบาท คาดว่าภายในสิ้นปีจะทรงตัวในระดับดังกล่าว
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,191 วันที่ 11 - 14 กันยายน พ.ศ. 2559