ค่าเงินบาทปิดตลาดวันที่ 5พ.ย.ที่ระดับ  32.52 บาทต่อดอลลาร์

05 พ.ย. 2568 | 10:59 น.
อัปเดตล่าสุด :05 พ.ย. 2568 | 11:13 น.

ค่าเงินบาทแข็งค่ากลับมาในช่วงบ่ายสอดคล้องกับทิศทางฟันด์โฟลว์ของนักลงทุนต่างชาติ ขณะที่ตลาดรอผลตัดสินในประเด็นภาษีสินค้านำเข้าของสหรัฐในคืนนี้อย่างใกล้ชิด ส่วนเงินบาทแทบไม่ได้ตอบรับตัวเลขเงินเฟ้อไทยที่ยังติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7  

ค่าเงินบาทปิดตลาดวันที่ 5พ.ย.ที่ระดับ  32.52 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 32.55 บาทต่อดอลลาร์ฯ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงในช่วงเช้า แต่ทยอยแข็งค่ากลับมาในช่วงบ่ายสอดคล้องกับทิศทางฟันด์โฟลว์ของนักลงทุนต่างชาติ (ซึ่งในวันนี้ซื้อสุทธิหุ้นไทย 2,496 ล้านบาท และมีสถานะอยู่ในฝั่ง Net Inflows  เข้าตลาดพันธบัตรไทย 5,332 ล้านบาท)

ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ ขาดแรงหนุนเนื่องจากตลาดรอติดตามคำตัดสินของศาลสหรัฐฯ ในประเด็นภาษีสินค้านำเข้าของปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ในคืนนี้อย่างใกล้ชิด (อนึ่ง เงินบาทแทบไม่ได้ตอบรับตัวเลขเงินเฟ้อ CPI ของไทยที่ยังคงติดลบติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7 ที่ -0.76% YoY) 

ส่วนค่าเฉลี่ย Indicative forward points ของธุรกรรมระยะ 3 เดือนสำหรับผู้ประกอบการที่มีรายได้ 50-200 ล้านบาทต่อปี รายงานข้อมูล ณ 10.00 น. วันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 จากเว็บไซต์ ธปท. อยู่ที่ -24.78 สำหรับผู้ส่งออก (ขายเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า) และที่ -20.96 สำหรับผู้นำเข้า (ซื้อเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า)

สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 32.50-32.75 บาทต่อดอลลาร์ฯ

ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การตอบรับของตลาดต่อคำตัดสินของศาลสหรัฐฯในประเด็นภาษีสินค้านำเข้าของปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ ฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ ทิศทางค่าเงินเอเชีย และผลการประชุม BOE