KEY
POINTS
ราคาทองคำร่วงลงต่ำกว่าระดับ 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากจีนประกาศยุติการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ค้าปลีกบางราย ซึ่งเป็นนโยบายที่มีมาอย่างยาวนาน การเปลี่ยนแปลงนี้อาจกระทบต่อความต้องการในตลาดโลหะมีค่าที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
ราคาทองคำสปอตล่าสุดลดลง 0.1% อยู่ที่ 3,997.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ณ เวลา 10:31 น. ตามเวลาสิงคโปร์ หลังจากร่วงลง 2.7% ในสัปดาห์ก่อน ขณะที่ดัชนี Bloomberg Dollar Spot Index ทรงตัวใกล้ระดับเดิม
ราคาทองคำส่งมอบทันที (bullion for immediate delivery) ลดลงมากถึง 1% ก่อนที่จะฟื้นตัวจากการปรับลงในวันเดียวกัน ขณะที่หุ้นกลุ่มเครื่องประดับของจีนร่วงลงอย่างหนัก
จีนประกาศเมื่อวันเสาร์ว่า จะไม่อนุญาตให้ผู้ค้าปลีกบางรายนำภาษีมูลค่าเพิ่มมาหักกลบเมื่อต้องขายทองคำที่ซื้อจากตลาดทองคำเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Gold Exchange) และตลาดซื้อขายล่วงหน้าเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Futures Exchange) ไม่ว่าจะขายโดยตรงหรือหลังจากการแปรรูป
โดยได้แรงหนุนจากกระแสการซื้อของภาคค้าปลีก ก่อนที่จะปรับตัวลดลงอย่างแรงในช่วงสองสัปดาห์สุดท้ายของเดือน แม้จะมีการปรับฐาน แต่ราคาทองคำยังคงเพิ่มขึ้นกว่า 50% ตั้งแต่ต้นปี โดยปัจจัยพื้นฐานสำคัญที่หนุนราคาทองคำ เช่น ความต้องการจากธนาคารกลางและการถือครองทองคำเพื่อเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ยังคงอยู่ในทิศทางเดิม
แม้ว่าความต้องการทองคำจากจีนจะไม่ได้เป็นปัจจัยหลักในตลาดกระทิงที่ทำสถิติในปีนี้ แต่การเปลี่ยนแปลงทางภาษีในประเทศที่บริโภคทองคำมากที่สุดของโลกย่อมกระทบต่อความเชื่อมั่นของตลาดโลก ข่าวนี้อาจเป็นสิ่งที่นักเทรดและนักลงทุนที่รอการปรับฐานลึกหลังจากราคาพุ่งแรงเมื่อเดือนก่อนกำลังรอคอย
ในกลุ่มหุ้นเครื่องประดับ จอว์ ไท่ ฟุก จิวเวลรี่ กรุ๊ป (Chow Tai Fook Jewellery Group Ltd.) ร่วงลงสูงสุดกว่า 12% ที่ตลาดหุ้นฮ่องกง ขณะที่ Chow Sang Sang Holdings International Ltd. ลดลงมากกว่า 8% และ Laopu Gold Co. ร่วงลงมากกว่า 9%
นักวิเคราะห์ของซิตีกรุ๊ป Citigroup บางคนเขียนในบันทึกวิเคราะห์ว่า การเปลี่ยนแปลงภาษีครั้งนี้น่าจะทำให้อุตสาหกรรมทั้งหมดต้องปรับขึ้นราคาเพื่อส่งผ่านต้นทุนที่เพิ่มขึ้นไปยังผู้บริโภค
ก่อนหน้านี้ บริษัทส่วนใหญ่ในจีนสามารถหักภาษีมูลค่าเพิ่มจากต้นทุนเมื่อขายสินค้าให้ผู้บริโภคได้ ภายใต้นโยบายใหม่ ซึ่งจะมีผลจนถึงสิ้นปี 2027 สิทธิประโยชน์ทางภาษีจะจำกัดเฉพาะสมาชิกของตลาดทองคำเซี่ยงไฮ้และตลาดซื้อขายล่วงหน้าเซี่ยงไฮ้ ที่ตั้งใจขายทองคำในฐานะผลิตภัณฑ์เพื่อการลงทุนเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ทั้งสมาชิกและผู้ที่ไม่ใช่สมาชิกตลาด ที่ต้องการผลิตทองคำที่ไม่ใช่เพื่อการลงทุน เช่น เครื่องประดับ หรือทองคำสำหรับใช้ในอุตสาหกรรม จะสามารถหักภาษีมูลค่าเพิ่มจากต้นทุนได้เพียง 6% ของมูลค่าเมื่อต้องขายให้กับผู้บริโภค แทนที่จะหักได้ 13% ตามนโยบายเดิม ข้อกำหนดเดียวกันนี้ยังครอบคลุมถึงบริษัทที่ไม่ได้เป็นสมาชิกตลาด แต่สามารถซื้อทองคำโดยตรงจากตลาดได้ โดยไม่คำนึงถึงวัตถุประสงค์ในการซื้อ