ค่าเงินบาทปิดตลาดวันที่5ก.ย.ที่ระดับ 32.19 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 32.33 บาทต่อดอลลาร์ฯ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า ค่าเงินบาทฟื้นแข็งค่าขึ้น โดยได้รับอานิสงส์จากการปรับตัวขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ของราคาทองคำในตลาดโลกและแรงซื้อสุทธิหุ้นไทยของต่างชาติหลังความกังวลต่อประเด็นทางการเมืองคลายตัวลงบางส่วนหลังการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่
สำหรับทิศทางฟันด์โฟลว์ในวันนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 1,005.88 ล้านบาท แต่ขายสุทธิพันธบัตรไทย 274 ล้านบาท
ส่วนค่าเฉลี่ย Indicative forward points ของธุรกรรมระยะ 3 เดือนสำหรับผู้ประกอบการที่มีรายได้ 50-200 ล้านบาทต่อปี รายงานข้อมูล ณ 10.00 น. วันที่ 5 กันยายน 2568 จากเว็บไซต์ ธปท. อยู่ที่ -24.94 สำหรับผู้ส่งออก (ขายเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า) และที่ -22.23 สำหรับผู้นำเข้า (ซื้อเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า)
สำหรับการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์หน้าระหว่างวันที่ 8-12ก.ย.ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 31.80-32.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ปัจจัยการเมืองในประเทศ ทิศทางฟันด์โฟลว์ของต่างชาติและ
ราคาทองคำในตลาดโลก ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อของผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต ดัชนีราคาผู้บริโภค เดือนส.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นและมุมมองต่อเงินเฟ้อของผู้บริโภคเดือนก.ย. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
นอกจากนี้ ตลาดยังรอติดตามผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) และตัวเลขเศรษฐกิจของจีนในเดือนส.ค. อาทิ การส่งออก ดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิตด้วยเช่นกัน