ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า ค่าเงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 1 เดือนที่ 32.87 ก่อนจะกลับมาปิดตลาดวันที่ 1ส.ค.ที่ 32.85 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 32.68 บาทต่อดอลลาร์ฯ
โดยเงินบาทอ่อนค่าสอดคล้องกับทิศทางสกุลเงินอื่น ๆ ในภูมิภาค สวนทางเงินดอลลาร์ฯ ที่ยังคงแข็งค่าขึ้น หลังความกังวลต่อผลกระทบของภาษีสินค้านำเข้าต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ผ่อนคลายลงบางส่วน ประกอบกับตลาดยังคงประเมินว่า เฟดอาจจะยังไม่รีบปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในเร็ว ๆ นี้
นอกจากนี้ เงินบาทน่าจะมีแรงกดดันเพิ่มเติมจากทิศทางฟันด์โฟลว์ ซึ่งในวันนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทย 1,899 ล้านบาท และ 2,205 ล้านบาทตามลำดับ
ส่วนค่าเฉลี่ย Indicative forward points ของธุรกรรมระยะ 3 เดือนสำหรับผู้ประกอบการที่มีรายได้ 50-200 ล้านบาทต่อปี รายงานข้อมูล ณ 10.00 น. วันที่ 1 สิงหาคม 2568 จากเว็บไซต์ ธปท. อยู่ที่ -25.29 สำหรับผู้ส่งออก (ขายเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า) และที่ -22.67 สำหรับผู้นำเข้า (ซื้อเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า)
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในสัปดาห์หน้า (4-8 ส.ค.) ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ระดับ 32.30-33.10 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนก.ค. ของไทย ฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ ทิศทางราคาทองคำในตลาดโลก และสถานการณ์ระหว่างไทย-กัมพูชา
ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนมิ.ย. ดัชนี PMI/ISM ภาคบริการเดือนก.ค. และตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามผลการประชุม BOE ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนก.ค. ของจีน ญี่ปุ่น ยูโรโซน อังกฤษ และตัวเลขเศรษฐกิจจีนเดือนก.ค. อาทิ ตัวเลขการส่งออก ด้วยเช่นกัน