‘กรณ์ จาติกวณิช’ ชี้ทางออกไทยโดนภาษีทรัมป์ 36% ผนึกอาเซียนเสริมแกร่ง

09 ก.ค. 2568 | 08:11 น.
อัปเดตล่าสุด :09 ก.ค. 2568 | 08:19 น.

"กรณ์ จาติกวณิช" เปิดกลยุทธ์การลงทุนเมื่อโลกการเงินอยู่ใต้เงานโยบายของทรัมป์ เตรียมรับมือความผันผวน หลังไทยโดนสหรัฐฯ จ่อเก็บภาษีนำเข้า 36%

นายกรณ์ จาติกวณิช ในฐานะประธานกรรมการและกรรมการอิสระ Finnomena เปิดเผยว่า จากกรณีที่สหรัฐอเมริกา ส่งจดหมายเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้ากับประเทศไทยที่อัตรา 36% ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 สิงหาคม 2568 นี้ ถือเป็น Worst Case Scenario จากผลการเจรจาทางการค้า

เนื่องจากเป็นระดับที่ไม่ได้ลดหย่อนหลังจากที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศมาตรการภาษีนำเข้าแบบตอบโต้ (Reciprocal Tariff) ครั้งแรก ซึ่งได้สร้างความท้าทายอย่างมากต่อระบบเศรษฐกิจไทย ความผันผวนของตลาดทุน รวมถึงกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันระหว่างประเทศ

“ถ้าผมอยู่ในทีมเจรจาเศรษฐกิจ จะตัดสินใจเจรจาแบบเชิงรุก ร่วมมือกับกลุ่มประเทศในอาเซียน เปิดโต๊ะเจรจาภาษีการค้ากับสหรัฐฯ ผ่านเวทีการประชุมองค์การค้าโลก WTO เพื่อเพิ่มพลังการต่อรอง ขยายความร่วมมือทางการค้า และหาทางออกในรูปแบบที่ยั่งยืน พร้อมแสดงความจริงใจด้วยการสื่อสารข้อมูลที่ครบถ้วนกับคนไทย เพราะสุดท้ายแล้วผลของการเจรจาต้องมีผู้ที่เสียผลประโยชน์ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะ Win-Win ทุกฝ่าย”

กรณ์ จาติกวณิช ในฐานะประธานกรรมการและกรรมการอิสระ Finnomena

นายวศิน ปริธัญ Managing Director บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน เดฟินิท จำกัด ในเครือของ Finnomena Group กล่าวว่า ประเมินผลกระทบของภาษีตอบโต้ของทรัมป์ในระยะสั้นนั้น เชื่อว่าจะเป็นปัจจัยเชิงลบต่อประเทศที่โดนเก็บภาษีในอัตราที่สูง

ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอการเติบโต และคาดว่าจะเห็นความผันผวนของตลาดหุ้นแบบ Sideway ทั้งนี้ เชื่อว่าตลาดคงไม่ถึงขั้นปรับฐานแบบลงลึก แต่จะค่อยๆ ฟื้นตัวกลับมาได้ในระยะยาว