รศ. ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย เปิดเผยว่า แคนดิเดตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย มีความเหมาะสมทั้ง 2 คน
สำหรับ ดร.รุ่ง มัลลิกะมาส รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ถือว่าเป็นลูกหม้อของแบงค์ชาติ โดยที่ผ่านมีโอกาสไปร่วมงานในภาคเอกชน ตามกลไกของแบงก์ชาติ ที่อยากให้คนในแบงค์ชาติ ไปสัมผัสกับภาคเอกชนจะได้กับมาปรับประยุกต์นโยบายการเงินที่เหมาะสมนะ
"จะเห็นจากการคัดเลือกผู้ว่าฯแบงค์ชาติ 1 1 ใน 6 เท่านั้น เมื่อ ดร.รุ่ง ถูกเลือกก็แสดงว่า แนวคิดหรือนโยบาย ที่จะเป็นผู้ว่าแบงค์ชาติแล้วปรับปรับเปลี่ยนหรือว่าดำเนินการแบงก์ชาติในยุคถัดไป คิดว่ากรรมการเห็นว่ามีความเหมาะสม"
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา 10 ปี ผู้ว่าฯแบงค์ชาติ ไม่ได้เป็นคนในแบงค์ชาติ เพราะฉะนั้นการที่เสนอ ดร.รุ่งซึ่งเป็นคนของแบงค์ชาติ ซึ่งเป็นคนมีประสบการณ์มีการประชุมกับหน่วยงานต่าง ๆ ภายนอกกับธนาคารกลางของอาเซียนกับธนาคารกลางของทุกที่ โดยทุกคนรู้จักว่า ดร.รุ่งคือใคร
เพราะฉะนั้นการทำงานมันทำงานได้เร็ว ทำงานได้ใกล้ชิด ทุกคนรู้จัก ซึ่งหากจะมีการปรับภาพลักษณ์ หรือปรับเรื่องไหนอย่างไรบ้าง มีความรู้ความสามารถอยู่แล้ว
นอกจากนี้ จะทำให้แบงก์ชาติมีภาพลักษณ์ที่ดี ที่ทำให้รัฐบาลรู้สึกคนที่เป็นคนในมีความเชี่ยวชาญ และสามารถจี้รัฐมนตรีคลังให้ข้อมูลข่าวสารมาจากข่าวบางส่วนที่ออกมาว่า เป็นคนที่เป็นอิสระทางการเงิน ไม่ยึดโยงกับ รัฐบาล เพราะแบงค์ชาติมีอิสระในการตัดสินใจ ก็ถือว่าเป็นจุดที่เป็นภาพลักษณ์ที่โดดเด่น
ด้าน นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ซึ่งเป็นรูปแบบการทำงานของรัฐบาล มีความเข้าอกเข้าใจในเชิงของการที่ทำงาน ส่งเสริมคนตัวเล็ก SMEs ประชาชนทั่วไป อีกทั้งคุณวิทัยก็มีการตั้งโจทย์ทำให้แบรนด์ของทางธนคารออมสินเป็น ธนาคารเพื่อสังคม ซึ่งมีดำเนินการในแง่การออกสินเชื่อสนับสนุนทางด้านสิ่งแวดล้อม ทางด้านสังคม และขยายสินเชื่อกับธุรกิจขนาดใหญ่ ทั้งที่เป็นธุรกิจทั่วไป หรือธุรกิจเชิงพาณิชย์
ทั้งนี้ คุณวิทัยจะเป็นคนที่มีความเข้าใจการทำงานเชิงปฏิบัติ 100% เห็นโอกาส ปัญหา และอุปสรรค เนื่องจากจากธนาคารออมสินเป็นสถาบันการเฉพาะกิจของรัฐ ก็ต้องประสานกระทรวงการคลัง ก็จะรู้แนวนโยบายของการทำงานร่วมกับรัฐบาลในแง่ของประสานกระทรวงการคลัง ขณะเดียวกัน ก็ต้องทำงานภายใต้ข้อแนะนำของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งจะรู้กฎเกณฑ์ กฎระเบียบของแห่งประเทศไทย
ขณะเดียวกัน ยังเป็นประธานสถาบันการเงินธุรกิจ จะรู้ถึงภาพของหน่วยงานต่างๆ ที่เป็นสมัครเฉพาะกิจ แล้วก็คงจะประสานกับภาคแบงค์ในการทำงาน ก็จะรู้การทำงานอาจจะเป็นคนที่คล่องตัวในแง่โอเปอเรชั่น และการวางนโยบาย
อย่างไรก็ตาม อาจจะต้องดูความคุ้นเคยกับธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นบทบาทของประเทศไทยหรือธนาคารกลางทั่วโลก การไปประชุมอะไรต่างๆอาจจะไม่มีประสบการณ์ตรงแต่ก็เคยทำงานใน แต่ก็มีการประสานการลงทุนกับต่างประเทศ กับกลุ่มต่างประเทศ ก็จะมีประสบการณ์อยู่ ซึ่งแน่นอนว่าเป็นสิ่งนี้ที่กรรมการสรรหาก็มองว่าก็น่าเป็นบุคคลที่เหมาะสม
สุดท้ายแล้วที่ผ่านมาผู้ว่าแบงก์ชาติ มีทั้งคนที่เป็นลูกหม้อแบงก์ชาติ และคนที่ไม่ได้อยู่ในแบงก์ชาติ เพราะฉะนั้น การที่คนที่ไม่ใช่ลูกหม้อของแบงก์ชาติ มาเป็นผู้ว่าฯแบงก์ชาติก็ได้รับการยอมรับจากนานาชาติเช่นกัน