ค่าเงินบาทปิดตลาดวันที่ 25มิ.ย.ที่ระดับ 32.62 บาทต่อดอลลาร์
ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นตามทิศทางของหลายสกุลเงินในเอเชีย ส่วนมติกนง.ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.75% สอดคล้องกับตลาดคาดการณ์ทำให้ไม่มีผลมากนักต่อการเคลื่อนไหวของเงินบาทในช่วงบ่ายก่อนปิดตลาด
ค่าเงินบาทปิดตลาดวันที่ 25มิ.ย.ที่ระดับ 32.62 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 32.67 บาทต่อดอลลาร์ฯ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นตามทิศทางของหลายสกุลเงินในเอเชีย และการฟื้นตัวขึ้นของ Risk sentiment สวนทางเงินดอลลาร์ฯ ที่เผชิญแรงกดดันหลังจากที่มีรายงานข่าวเรื่องการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน
ทั้งนี้ ผลการประชุมกนง. ที่มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.75% ตามเดิมนั้นสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด ซึ่งทำให้ไม่มีผลมากนักต่อการเคลื่อนไหวของเงินบาทในช่วงบ่ายก่อนปิดตลาด ขณะที่ ทิศทางฟันด์โฟลว์ในวันนี้ แม้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 2,651.53 ล้านบาท แต่มีสถานะอยู่ในฝั่งขายสุทธิพันธบัตรไทยใกล้เคียงกันที่ 2,493 ล้านบาท
ส่วนค่าเฉลี่ย Indicative forward points ของธุรกรรมระยะ 3 เดือนสำหรับผู้ประกอบการที่มีรายได้ 50-200 ล้านบาทต่อปี รายงานข้อมูล ณ 10.00 น. วันที่ 25 มิถุนายน 2568 จากเว็บไซต์ ธปท. อยู่ที่ -24.65 สำหรับผู้ส่งออก (ขายเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า) และที่ -21.90 สำหรับผู้นำเข้า (ซื้อเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า)
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 32.45-32.70 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ปัจจัยทางการเมืองของไทย ฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ ทิศทางราคาทองคำในตลาดโลก
สถานการณ์ระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน ประเด็นการเจรจาการค้าของสหรัฐฯ และคู่ค้า รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/68 (final) ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนและยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเดือนพ.ค.