บล.กรุงศรี-กสิกรไทย แนะกระจายความเสี่ยง ลงทุน "โลกเก่า VS โลกใหม่"

07 มิ.ย. 2568 | 10:38 น.
อัปเดตล่าสุด :07 มิ.ย. 2568 | 14:24 น.

บล.กรุงศรี-กสิกรไทย แนะหนุนกระจายลงทุนสินทรัพย์ ให้ถูกจังหวะและเวลา ตามบริบทของเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน ด้านผู้ก่อตั้ง Rght Shift ชี้ควรศึกษาขั้นพื้นฐานให้ดี โดยเฉพาะในโลกดิจิทัลยุคใหม่

ในงานสัมนา "Thailand Investment Forum 2025: Great Depression พลิกเกมฝ่าวิกฤติ" จัดโดย ฐานเศรษฐกิจ กรุงเทพธุรกิจ และโพสต์ทูเดย์ ในหัวข้อ Batte: ลงทุนโลกเก่า VS โลกใหม่ ใครรุ่ง ใครร่วง?

นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ หัวหน้าสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันเราอยู่ในยุคการลงทุนโลกยุคปัจจุบันไม่ใช่ยุคเก่า แต่สินทรัพย์ที่มีอยู่ได้เพิ่มทางเลือกใหม่ขึ้นมาให้กับนักลงทุนตั้งแต่หลังปี 2551 ที่เริ่มมีสินทรัพย์ดิจิทัลเกิดขึ้น โดยสินทรัพย์ยุคเก่า ได้แก่ หุ้นพื้นฐาน, ตราสารหนี้ (Fixed Income), ทองคำ, อสังหาริมทรัพย์ที่ใช้สำหรับการลงทุน แต่คีย์หลักสินทรัพย์ในยุคปัจจุบันคือเรื่องกระแสเงินสดที่จับต้องได้ มีปันผล มีมูลค่าที่เราสามารถ evaluate ได้จริง

บล.กรุงศรี-กสิกรไทย แนะกระจายความเสี่ยง ลงทุน "โลกเก่า VS โลกใหม่"

ขณะที่สินทรัพย์ยุคใหม่คือนวัตกรรมที่ต้องรู้มูลค่า รู้ว่า value คืออะไร และจุดไหนที่น่าลงทุน และต้องรู้จักจังหวะเวลาในการลงทุน ดูภาวะเศรษฐกิจโลกและความผันผวน โดยบริบทของปัจจุบันเศรษฐกิจโลกเติบโตช้าลง เนื่องจากนโยบายกำแพงภาษีของสหรัฐฯ ซึ่งทำให้สินทรัพย์มีความเสี่ยงและผันผวนมากขึ้น ซึ่งอาจจะต้องพึ่งพานโยบายเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวกลับมา

ทั้งนี้ คาดว่าทั่วโลกจะเข้าสู่วงจรดอกเบี้ยขาลงทำให้เกิดความแตกต่างในบริบทการลงทุน เช่น สหรัฐฯจะลดดอกเบี้ยช้ากว่าประเทศอื่น เพราะกำแพงภาษีทำให้สินค้าในสหรัฐฯ แพงขึ้น เงินเฟ้อจะสูงขึ้น ส่วนฝั่งเอเชียและตลาดเกิดใหม่จะลดดอกเบี้ยเร็วกว่ามาก เนื่องจากพึ่งพาการค้าโลกและได้รับผลกระทบจากกำแพงภาษี ทำให้เงินเฟ้อต่ำและต้องกระตุ้นเศรษฐกิจจากภายใน

บล.กรุงศรี-กสิกรไทย แนะกระจายความเสี่ยง ลงทุน "โลกเก่า VS โลกใหม่"

ดังนั้น สินทรัพย์ที่น่าลงทุนในปัจจุบัน คือ ตราสารหนี้ (Fixed Income) ที่จะเป็นโอกาสในช่วงนี้ โดยเฉพาะตราสารหนี้ในเอเชียและตลาดเกิดใหม่ที่จะให้ผลตอบแทนดี เป็นการปรับสมดุลการลงทุนใหม่ ซึ่งต้องใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้น (ลดดอกเบี้ย) ส่วนหุ้นยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสมในการลงทุนมากนักในตอนนี้ ซึ่งหุ้นกำลังฟอร์มตัวและจะต้องมี Catalyst เช่น เศรษฐกิจฟื้นตัว, นโยบายการเงินคลายตัวมากขึ้น และนโยบายการคลังต้องสามารถคาดหวังได้

นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการหัวหน้าทีมกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ต้องสนับสนุนให้นักลงทุนกระจายการลงทุนไปในทุกสินทรัพย์ ทั้งสินทรัพย์โลกเก่า เช่น หุ้น ตราสารหนี้ และสินทรัพย์โลกใหม่ อย่าง บิตคอยน์ เนื่องจากแต่ละสินทรัพย์มีวงจรของสินทรัพย์

“ญี่ปุ่น ทุกคนเคยบอกว่าตายไปจากโลกแล้ว ไม่น่าลงทุน เงินเยนจะเสื่อมค่า แต่หลังจากโควิด-19 ญี่ปุ่น กลับมานิวไฮ และจีน ทุกคนเคยบอกว่าจะล้ม แต่จีนก็ฟื้นขึ้นมาได้ ดังนั้นการกระจายทุกสินทรัพย์ เรียนรู้ทุกสินทรัพย์เป็นสิ่งที่ควรทำ”

บล.กรุงศรี-กสิกรไทย แนะกระจายความเสี่ยง ลงทุน "โลกเก่า VS โลกใหม่"

สำหรับหุ้นไทยควรมีไว้ในพอร์ตในสัดส่วน 0-10% ท่ามกลางสถานการณ์ในปัจจุบันที่มีความไม่แน่นอนจากปัจจัยทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเป็นการประเมินมูลค่า Market Cap ต่อ GDP ดังนั้นระดับกรอบ 1,080-1,100 จุด แนะนำเพิ่มสัดส่วนหุ้นไทยประมาณ 10% และมองไปข้างหน้า กรอบ 1,245-1,300 จุด ลดสัดส่วนหุ้นไทยลงมาเหลือ 0% 

“SET Index ปัจจุบัน อาจจะไม่สามารถมาอยู่ใน Core Portfolio หรือพอร์หลัก ที่มีเป้าหมายสร้างมูลค่าเพิ่มจากการลงทุนในระยะยาวได้แล้ว แต่ SET Index ไปอยู่ใน Satellite Portfolio หรือพอร์ตเสริม ที่มีเป้าหมายทำกำไรในระยะกลาง-สั้น” 

นายโฉลก สัมพันธารักษ์ ผู้ก่อตั้งชมรม CDC Chaloke.com กล่าวว่า จากประสบการณ์ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า ความแม่นยำในการทำนายดัชนีตลาดหุ้นไทย Money Management สำคัญกว่า Technical Analysis การตัดสินใจลงทุนทุกครั้งต้องมี Money Management เข้ามาควบคุม และควรแบ่งบัญชีการลงทุ ด้วยการแยกบัญชีการลงทุนเป็นระยะยาว กลาง และสั้น เพราะจุดจังหวะเข้า (Entry) และกับจังหวะออก (Exit) ไม่เหมือนกัน 

นอกจากนี้ ดัชนีความกลัวและความโลภ (Fear & Greed Index) การควบคุมความโลภ (Greed) และความกลัว (Fear) ยังเป็นสิ่งสำคัญในการลงทุนซึ่งสามารถเรียนรู้และฝึกฝนได้ นอกจากนี้ ยังมีระบบการเทรดที่มีสัญญาณ Buy/Sell หรือ Trade Signal เป็นเครื่องมือที่สามารถทำกำไรได้โดยไม่ต้องขาดทุน 

บล.กรุงศรี-กสิกรไทย แนะกระจายความเสี่ยง ลงทุน "โลกเก่า VS โลกใหม่"

ทั้งนี้ ในยุคของการลงทุนที่ต้องมีการกระจายสินทรัพย์อย่างรอบคอบและบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างมีวินัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดที่มีความผันผวนสูง ซึ่งสินทรัพย์แบบดั้งเดิมยังคงมีบทบาทใน Core Portfolio ในขณะที่สินทรัพย์ใหม่ๆ เช่น Bitcoin และทองคำกำลังก้าวขึ้นมาเป็น Store of Value ที่สำคัญในอนาคต 

นายพิริชะ สัมพันธารักษ์ ผู้ก่อตั้ง Rght Shift และกรรมการผู้จัดการ บริษัท CDC ChalokeDotCom กล่าวว่า ในการลงทุนในโลกดิจิทัลใหม่ อย่าง Bitcoin แม้ว่าสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นอาจใช้เทคโนโลยีคล้ายกันแต่สิ่งที่ต้องรู้คือการศึกษาเรื่องนี้ขั้นพื้นฐาน โดย Bitcoin มีลักษณะเป็น "commodity" ที่สามารถใช้เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนได้และใช้เป็นแหล่งเก็บรักษา มูลค่าได้ 

"พูดง่ายๆ คือ Bitcoin มันเป็นเงิน และหากย้อนกลับไปเรื่องเงินก็ต้องรู้ว่าเงินคืออะไร เราจะเห็นว่าเงินคือสินค้าอะไรก็ได้ ที่คนพึงพอใจที่จะหยิบมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อการเก็บออม (ส่งค่าไปในอนาคต), การใช้จ่าย (ส่งไปข้างๆ), และการวัดมูลค่าที่ใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน แม้จะใช้จ่ายง่ายและมีสภาพคล่องสูง แต่ตอนนี้กลับขาดคุณสมบัติสำคัญที่สุดคือ คุณสมบัติในการเก็บรักษา มูลค่าข้ามผ่านระยะเวลา"

บล.กรุงศรี-กสิกรไทย แนะกระจายความเสี่ยง ลงทุน "โลกเก่า VS โลกใหม่"

ดังนั้น ความเหนือกว่าของ Bitcoin เมื่อเทียบกับทองคำและเงิน คือตอบโจทย์การใช้ในยุคดิจิทัลได้ ตอบโจทย์การใช้เงินในปัจจุบันที่แก้ปัญหาเงิน physical (ทองคำ) ที่ไม่สามารถใช้แลกเปลี่ยนในโลกออนไลน์ได้สะดวก สามารถใช้ที่ไหน ยังไง เมื่อ ไหร่ก็ได้ โดยไม่ต้องมีตัวกลาง ทำให้สามารถทำธุรกรรมโดยตรงกับผู้รับโดยไม่มีบุคคลที่สามสามารถห้ามหรือยับยั้งได้

อย่างไรก็ตาม ยังสนับสนุนให้ทุกคนศึกษาและตั้งคำถามว่าเงินคืออะไร Bitcoin คืออะไร เพราะปัจจุบันเรายังอยู่ในยุคของคนที่ไม่มีความเข้าใจจะไม่สามารถถือ Bitcoin ได้เมื่อเจอความผันผวน แต่ะถ้ายังไม่เข้าใจ Bitcoin อย่างน้อยก็ควรเก็บสินทรัพย์เป็นทองคำ และอย่าเลือกลงทุนในทุกสินทรัพย์