30 พฤษภาคม 2568 - ความสัมพันธ์ตึงเครียดระหว่างประธานาธิบดีและประธานเฟด กลับมาร้อนระอุอีกครั้ง เมื่อประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เรียกนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เข้าพบที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ ในการประชุมแบบตัวต่อตัวครั้งแรกนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม โดยรอยเตอร์รายงานว่า ประธานาธิบดีได้บอกกับผู้นำธนาคารกลางว่ากำลัง "ทำผิดพลาด" ที่ไม่ยอมลดอัตราดอกเบี้ย
ทั้งทำเนียบขาวและเฟดยืนยันว่าการพบปะครั้งนี้เกิดขึ้นตามคำเชิญของประธานาธิบดี ซึ่งเป็นการรื้อฟื้นความสัมพันธ์อันตึงเครียด ที่ทรัมป์มักวิจารณ์พาวเวลล์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าที่ไม่ยอมลดอัตราดอกเบี้ยตามที่ต้องการ
ในแถลงการณ์ฉบับเต็มที่เผยแพร่ทันทีหลังการประชุม เฟดระบุว่า "ตามคำเชิญของประธานาธิบดี ประธานพาวเวลล์ได้พบกับประธานาธิบดีวันนี้ที่ทำเนียบขาวเพื่อหารือเกี่ยวกับพัฒนาการทางเศรษฐกิจ รวมถึงการเติบโต การจ้างงาน และเงินเฟ้อ"
แถลงการณ์ยังระบุอย่างชัดเจนว่า "ประธานพาวเวลล์ไม่ได้หารือเกี่ยวกับความคาดหวังด้านนโยบายการเงิน ยกเว้นการเน้นย้ำว่าแนวทางนโยบายจะขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจที่เข้ามาและความหมายของข้อมูลเหล่านั้นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ"
ประเด็นสำคัญที่สุดในแถลงการณ์คือการย้ำจุดยืนของเฟดเรื่องความเป็นอิสระในการกำหนดนโยบายการเงิน โดยระบุว่า "ประธานพาวเวลล์กล่าวว่า เขาและเพื่อนร่วมงานในคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) จะกำหนดนโยบายการเงินตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อสนับสนุนการจ้างงานสูงสุดและเสถียรภาพราคา และจะตัดสินใจบนพื้นฐานของการวิเคราะห์ที่รอบคอบ เป็นกลาง และไม่มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง"
นางแคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาวกล่าวว่า เธอและประธานาธิบดีได้อ่านแถลงการณ์ของเฟดและยืนยันว่าถูกต้อง
อย่างไรก็ตาม เธอเสริมว่า "ประธานาธิบดีได้กล่าวว่า เขาเชื่อว่าประธานเฟดกำลังทำผิดพลาดที่ไม่ลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งทำให้เราเสียเปรียบทางเศรษฐกิจเมื่อเทียบกับจีนและประเทศอื่นๆ"
เฟดได้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 4.25%-4.50% เมื่อต้นเดือนนี้ ซึ่งเป็นระดับเดิมตั้งแต่เดือนธันวาคม และผู้กำหนดนโยบายได้ส่งสัญญาณว่าอาจคงอัตรานี้ไว้อีกสองสามเดือนขณะที่รอความชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายภาษี
ผู้กำหนดนโยบายกังวลว่าภาษีและความไม่แน่นอนของนโยบายอาจทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว แต่กังวลมากกว่าว่าสิ่งเหล่านี้อาจนำไปสู่เงินเฟ้อที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามรายงานการประชุมเฟดเดือนพฤษภาคมที่เผยแพร่เมื่อวันพุธ
ตลาดการเงินคาดการณ์ว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน และลดอีกครั้งในเดือนธันวาคม
ทรัมป์เป็นผู้แต่งตั้งพาวเวลล์ให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดในสมัยแรก แต่ความสัมพันธ์เริ่มแย่ลงอย่างรวดเร็วเนื่องจากการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ย ทรัมป์เคยกล่าวว่าต้องการให้พาวเวลล์พ้นจากธนาคารกลาง แม้ว่าจะบอกว่าไม่มีความตั้งใจที่จะพยายามไล่พาวเวลล์ออก
ความเป็นไปได้ของการไล่ออกได้สร้างความไม่สงบให้กับตลาดการเงินที่พึ่งพาความสามารถของเฟดที่เป็นอิสระในการทำงานโดยปราศจากการแทรกแซงทางการเมือง
ความกังวลเหล่านั้นบรรเทาลงบางส่วนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากคำตัดสินของศาลฎีกาในคดีที่ทดสอบความสามารถของทรัมป์ในการไล่ผู้นำของหน่วยงานอิสระอื่นๆ ของรัฐบาล ซึ่งส่งสัญญาณว่าธนาคารกลางอาจได้รับการปฏิบัติเป็นกรณีพิเศษที่ประธานไม่สามารถถูกปลดออกได้ตามอำเภอใจ
พาวเวลล์พบกับทรัมป์ครั้งล่าสุดในเดือนพฤศจิกายน 2562 ในระหว่างสมัยแรกของทรัมป์ ในการประชุม 30 นาทีที่มีนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังในขณะนั้นเข้าร่วมด้วย นี่เป็นการเข้าพบประธานาธิบดีครั้งแรกของพาวเวลล์ในรอบสามปี โดยครั้งล่าสุดคือกับประธานาธิบดีโจ ไบเดนและรัฐมนตรีกระทรวงการคลังเจเน็ต เยลเลน ที่ทำเนียบขาว
พาวเวลล์เคยกล่าวว่า การประชุมเช่นนี้เกิดขึ้นตามคำขอของประธานาธิบดีเสมอ ไม่เคยเป็นอีกฝ่ายที่ร้องขอ