เฟดคงดอกเบี้ย 4.25–4.50% เตือนความเสี่ยงจากภาษีศุลกากร
เฟดคงอัตราดอกเบี้ยที่ 4.25–4.50% ย้ำยังไม่ถึงเวลา รอความชัดเจนเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาลทรัมป์ เตือนการขึ้นภาษีอาจนำไปสู่ภาวะเงินเฟ้อ การว่างงานที่สูงขึ้น
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 4.25% ถึง 4.50% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ นับเป็นการคงดอกเบี้ยครั้งที่ 3 ติดต่อกัน โดยประกาศผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) เมื่อเวลา 14.00 น. ของวันที่ 7 พฤษภาคม 2025 ตามเวลา EDT หรือตรงกับ 01.00 น. วันที่ 8 พฤษภาคม ตามเวลาในประเทศไทย
การตัดสินใจเป็นไปตามที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดไว้ โดยเฟดยังคงเฝ้ารอสัญญาณชัดเจนจากนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และอาจเริ่มลดดอกเบี้ยลง 0.25 % ในการประชุมวันที่ 29–30 กรกฎาคม ก่อนจะทยอยลดอีก 2–3 ครั้งในช่วงที่เหลือของปี
อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์จาก Bloomberg ประเมินว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้ง โดยจะเริ่มในเดือนกันยายน
ถ้อยแถลง FOMC
ถ้อยแถลงของ FOMC ระบุว่า แม้การส่งออกสุทธิที่ผันผวนจะส่งผลต่อข้อมูลทางเศรษฐกิจ แต่ตัวชี้วัดล่าสุดบ่งชี้ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจยังคงขยายตัวในอัตราที่มั่นคง อัตราการว่างงานทรงตัวในระดับต่ำ การจ้างงานยังคงแข็งแกร่ง และอัตราเงินเฟ้อปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
คณะกรรมการมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนการจ้างงานเต็มที่และรักษาอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ที่ระดับ 2% ในระยะยาว แม้แนวโน้มเศรษฐกิจจะมีความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้คณะกรรมการต้องพิจารณาความเสี่ยงทั้งด้านการว่างงานและเงินเฟ้อมากขึ้น
ดังนั้น FOMC จึงมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 4.25% ถึง 4.50% พร้อมยืนยันว่าจะเดินหน้าลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้ และพันธบัตรที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัย (MBS) ค้ำประกันต่อไป
คณะกรรมการจะติดตามข้อมูลเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด และจะประเมินจุดยืนของนโยบายการเงินตามความเหมาะสม หากมีความเสี่ยงที่อาจส่งผลต่อเป้าหมายของคณะกรรมการ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลตลาดแรงงาน แรงกดดันด้านเงินเฟ้อ การคาดการณ์เงินเฟ้อ รวมถึงพัฒนาการด้านการเงินและระหว่างประเทศ
ยังไม่รีบลดดอกเบี้ย
เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด แถลงข่าวหลังการประชุม โดยกล่าวว่า มาตรการด้านภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังสร้างผลกระทบทางลบต่อเศรษฐกิจสหรัฐโดยตรง และยิ่งเพิ่มความไม่แน่นอนมากกว่าที่เคยประเมินไว้
หากการปรับขึ้นภาษีศุลกากรครั้งใหญ่ที่ประกาศไปนั้นยังคงดำเนินต่อไป ก็มีแนวโน้มที่จะทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้น การเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัว และอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น
แม้ตัวเลขเศรษฐกิจจะแสดงให้เห็นถึงความแข็งแรงของเศรษฐกิจโดยรวม แต่ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและนักลงทุนยังคงอ่อนแรง พาวเวลล์ยืนยันชัดเจนว่า เฟดยังไม่เร่งรีบที่จะลดดอกเบี้ยในเวลานี้ เนื่องจากยังต้องรอให้แนวโน้มเศรษฐกิจมีความชัดเจนมากกว่านี้
เราควรรอจนกว่าจะเห็นแนวโน้มเศรษฐกิจที่ชัดเจน สิ่งที่เหมาะสมที่สุดที่ควรทำตอนนี้คือ Wait & See
เมื่อถูกผู้สื่อข่าวถามว่า จะเข้าพบกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์หรือไม่ ในฐานะประธานเฟด พาวเวลล์ตอบว่า
ผมไม่เคยขอเข้าพบกับประธานาธิบดีคนใด และจะไม่มีทางขอ ขึ้นอยู่กับประธานาธิบดีมากกว่าว่าอยากพบผมแค่ไหน