นางสาวอารีรัตน์ มุราชัย นักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า ประเมินราคาทองคำสัปดาห์นี้ (12-18 พ.ค.68) มีแนวโน้มการปรับตัวลงต่อ หลังสหรัฐฯ และจีนประกาศข้อตกลงลดภาษีนำเข้าสินค้าระหว่างกันเป็นเวลา 90 วัน
โดยสหรัฐฯ จะลดภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนจาก 145% เหลือ 30% ขณะที่จีนจะลดภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ จาก 125% เหลือ 10% จากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ความตึงเครียดทางการค้าลดลง และเพิ่มความเชื่อมั่นของนักลงทุนให้กลับเข้ามาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้น และเทขายสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ
ขณะเดียวกันการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ที่พุ่งสูงขึ้นไปแตะระดับ 101.95 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย.68 ที่ผ่านมา ส่งผลเชิงลบต่อราคาทองคำ เนื่องจากความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐฯ เริ่มคลี่คลาย และธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังคงแสดงจุดยืนที่แข็งกร้าวต่อทิศทางอัตราดอกเบี้ย แม้จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมรอบล่าสุด แต่ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณผ่อนคลายทางการเงิน
ดังนั้น ทาง GCAP GOLD ประเมินกลยุทธ์การลงทุนในทองคำ โดยการทยอยเข้าเก็บตามแนวรับสำคัญ Gold Spot 3,150 / 3,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ว่าภาพรวมยังเป็นขาลงในระยะสั้น เพราะขาดปัจจัยใหม่ที่หนุนราคาทองคำในช่วงนี้
รวมถึงแรงกดดันจากบรรยากาศเชิงบวกของตลาดโลก ทำให้ราคาทองคำเข้าสู่โหมดของการทยอยสะสมตามแนวรับสำคัญ เพื่อเล่นรอบบริเวณ 3,150 / 3,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งราคาทองคำไทยอาจอยู่ที่ประมาณ 50,500 / 50,000 บาท
“ภายในสัปดาห์ แนะให้นักลงทุนยังคงต้องจับตาการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ซึ่งคาดการณ์ว่าตัวเลขเงินเฟ้อฝั่งผู้บริโภคจะทรงตัวที่ 2.4% ขณะที่เงินเฟ้อฝั่งผู้ผลิตคาดว่าจะลดลงจาก 2.7% เหลือ 2.5% หากลดลงตามคาด ก็จะเป็นแรงหนุนช่วยพยุงราคาทองคำได้ในระยะสั้น”