ค่าเงินบาทปิดตลาดวันที่ 25เม.ย.ที่ระดับ 33.54 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 33.44 บาทต่อดอลลาร์ฯ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า ค่าเงินบาททยอยอ่อนค่ากลับมาท่ามกลางสถานะขายสุทธิทั้งหุ้นและพันธบัตรไทยของต่างชาติ (1,876 ล้านบาท และ 2,161 ล้านบาท ตามลำดับ) และการปรับตัวลงของราคาทองคำในตลาดโลกตามแรงขายทำกำไร หลังราคาทำสถิติสูงเป็นประวัติการณ์เหนือแนว 3,500 ดอลลาร์ฯ ต่อออนซ์ในช่วงที่ผ่านมา
ส่วนค่าเฉลี่ย Indicative forward points ของธุรกรรมระยะ 3 เดือนสำหรับผู้ประกอบการที่มีรายได้ 50-200 ล้านบาทต่อปี รายงานข้อมูล ณ 10.00 น. วันที่ 25 เมษายน 2568 จากเว็บไซต์ ธปท. อยู่ที่ -23.28 สำหรับผู้ส่งออก (ขายเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า) และที่ -20.16 สำหรับผู้นำเข้า (ซื้อเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า)
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์หน้า (28เม.ย.-2พ.ค) ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 33.00-34.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการประชุมกนง. (30 เม.ย.) รายงานเศรษฐกิจและการเงินเดือนมี.ค. ของไทย
สถานการณ์ของสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ราคาทองคำในตลาดโลก สัญญาณฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ และผลการประชุม BOJ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ เครื่องชี้แรงงาน JOLTS ดัชนีราคา PCE/Core PCE ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเดือนมี.ค. ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/2568 (adv.) ข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชน
ดัชนี PMI/ISM ภาคการผลิต ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานเดือนเม.ย. รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามดัชนี PMI เดือนเม.ย. ของจีน ญี่ปุ่น อังกฤษ และยูโรโซน ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/2568 และอัตราเงินเฟ้อเดือนเม.ย. ของยูโรโซนด้วยเช่นกัน