ค่าเงินบาทปิดตลาดวันที่ 8เม.ย. “อ่อนค่า”ที่ระดับ 34.79 บาทต่อดอลลาร์

08 เม.ย. 2568 | 12:02 น.
อัปเดตล่าสุด :08 เม.ย. 2568 | 12:05 น.

ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงตามทิศทางของสกุลเงินอื่น ๆ ในเอเชีย นำโดย เงินหยวน ที่เผชิญแรงขายท่ามกลางสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ยกระดับความตึงเครียดเพิ่มขึ้น หลังจากที่ ปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ เตือนจีนให้ยกเลิกมาตรการเรียกเก็บภาษี 34% ต่อสินค้าที่นำเข้าจากสหรัฐ ไม่เช่นนั้นสหรัฐจะปรับขึ้นอัตราภาษีเพิ่มเติมอีก 50%

ค่าเงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบประมาณ 4 เดือนครึ่งที่ 34.84 บาทต่อดอลลาร์ฯ ก่อนจะปิดตลาดที่ระดับ 34.79 บาทต่อดอลลาร์ฯ อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับระดับปิดตลาดในประเทศช่วงปลายสัปดาห์ก่อนที่ 34.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า  ค่า เงินบาทอ่อนค่าลงตามทิศทางของสกุลเงินอื่น ๆ ในเอเชีย นำโดย เงินหยวน ซึ่งเผชิญแรงขายท่ามกลางสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ยกระดับความตึงเครียดเพิ่มขึ้น

หลังจากที่ ปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ เตือนจีนให้ยกเลิกมาตรการเรียกเก็บภาษี 34% ต่อสินค้าที่นำเข้าจากสหรัฐฯ ไม่เช่นนั้นสหรัฐฯ จะปรับขึ้นอัตราภาษีเพิ่มเติมอีก 50% สำหรับทิศทางฟันด์โฟลว์ในวันนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 2,475 ล้านบาท แต่ยังคงซื้อสุทธิพันธบัตรไทย 4,100 ล้านบาท

 

ส่วนค่าเฉลี่ย Indicative forward points ของธุรกรรมระยะ 3 เดือนสำหรับผู้ประกอบการที่มีรายได้ 50-200 ล้านบาทต่อปี รายงานข้อมูล ณ 10.00 น. วันที่ 8 เมษายน 2568 จากเว็บไซต์ ธปท. อยู่ที่ -23.34 สำหรับผู้ส่งออก (ขายเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า) และที่ -20.19 สำหรับผู้นำเข้า (ซื้อเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า)

 

สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 34.50-35.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศคู่ค้า (ภาษีที่สหรัฐฯ เรียกเก็บมีผล 9  เม.ย.)

ทิศทางสกุลเงินเอเชียและราคาทองคำในตลาดโลก สัญญาณฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ  และสัญญาณดอกเบี้ยสหรัฐฯ จากถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดและรายงานการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 18-19 มี.ค.