เอกชนจี้รัฐเร่ง “ฟื้นเชื่อมั่น-ความปลอดภัย” ผลกระทบแผ่นดินไหว

31 มี.ค. 2568 | 11:29 น.
อัปเดตล่าสุด :31 มี.ค. 2568 | 16:29 น.

ธปท.เตรียมนำข้อมูลที่ประชุมกนง.รอบวันวันที่ 30เม.ย. เผยยังเร็วเกินไปในการประเมินผลกระทบต่อเศรษฐกิจจากเหตุแผ่นดินไหว แจงจากการพูดคุยผู้ประกอบการ “อสังหา -ท่องเที่ยว”ร้องรัฐช่วยเรียกความเชื่อมั่น ความปลอดภัย

ธปท.เตรียมนำข้อมูลที่ประชุมกนง.รอบวันวันที่ 30เม.ย. เผยยังเร็วเกินไปในการประเมินผลกระทบต่อเศรษฐกิจจากเหตุแผ่นดินไหว  แจงจากการพูดคุยผู้ประกอบการ “อสังหา -ท่องเที่ยว”ร้องรัฐช่วยเรียกความเชื่อมั่น  เหตุคนชะลอซื้อ/เช่าที่อยู่อาศัย  นักท่องเที่ยวยกเลิก/เลื่อนการเดินทางกลัวไม่ปลอดภัย   พร้อมประเมินจับจ่ายใช้สอยอาจชะลอลงในระยะสั้น  เนื่องจากครัวเรือนเปราะบางมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมสร้าง จ่อเพิ่มเติมการช่วยเหลือลูกหนี้ที่เข้าโครงการ"คุณสู้เราช่วย"

นายสักกะภพ พันธ์ยานุกูล ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน และเลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ตอบข้อถามถึงความจำเป็นในการผ่อนคลายนโยบายการเงิน โดยระบุว่า  ในแง่นโยบายการเงินจากการประชุมครั้งล่าสุดให้น้ำหนักเรื่องเศรษฐกิจอยู่แล้ว

โดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในรอบที่ผ่านมา  เพราะมองเภาพศรษฐกิจที่ความเสี่ยงปรับสูงขึ้นในระดับหนึ่งแล้ว   อย่างไรก็ดี เมื่อมีข้อมูลใหม่ก็จะนำมาประมวลเพื่อพิจารณาเรื่องอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง ในการประชุมคณะกรรมการนยายการเงิน (กนง.) ในรอบวันที่ 30 เมษายน

ส่วนผลกระทบต่อเศรษฐกิจจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวนั้น  ยังเร็วไปที่จะประเมินผลกระทบเชิงตัวเลขต่อเศรษฐกิจโดยรวม   เนื่องจากผลกระทบสามารถผ่านหลายช่องทาง  โดยผลกระทบทางตรงจะผ่านทางทรัพย์สินและกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักไป  ซึ่งความจริงเริ่มเห็นตัวเลขความเสียหายทยอยเข้ามาเรื่อยๆ ซึ่งต้องรอติดตามดูตัวเลขและจะรายงานต่อไป   รวมถึงผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและพฤติกรรมต่างๆของธุรกิจและประชาชนที่เปลี่ยนไป

ซึ่งตรงนี้อาจจะกระทบช่องทางหลักที่ธปท.ติดตามดูอยู่คือ ภาคท่องเที่ยว เพราะต้องยอมรับว่าภาพข่าวเหตุการณ์แผ่นดินไหว ตึกถล่ม ที่อาจจะดูมีความรุ่นแรงอาจจะมีความกังวลของนักท่องเที่ยวอาจจะมีบ้าง เรื่องการชะลอ หรือยกเลิกตั๋วเครื่องบินหรือที่พัก   หากเทียบเคียงกับเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในอดีตโดยปกติจะใช้เวลาไม่นานนัก ซึ่งจากการคุยล่าสุดปัจจุบันยังไม่เห็นการยกเลิกที่มากขึ้นอย่างผิดปกติ 

ส่วนภาคอสังหาริมทรัพย์  โดยเฉพาะอาคารสูงผลกระทบต่อความกังวลของประชาชน นักลงทุนเรื่องโครงสร้างและความปลอดภัย  อาจชะลอการซื้อและเช่าอาคารสูง  ซึ่งภาคอสังหาริมทรัพย์เป็นภาคที่ฟื้นตัวช้าเป็น K Shape รวมถึงปัญหาอุปทานคงค้างคอนโดฯ  ซึ่งเหตุการณ์แผ่นดินไหวจึงซ้ำเติมปัญหาที่มีอยู่ มองไปข้างหน้าความเชื่อมั่นและมาตรการดูแลความปลอดภัยของโครงสร้างต่างๆจึงเป็นสิ่งที่ต้องติดตามซึ่งต้องติดตามSentiment จะกลับมาเร็วได้ขนาดไหน 

ด้านการบริโภคภาคเอกชนนั้นคงจะเห็นการชะลอในระยะสั้นๆ เพราะประชาชนเองก็ต้องใช้เงินบางส่วนในการซ่อมสร้างอาคารที่มีความเสียหาย  อย่างไรก็ดีในแง่ของสภาพคล่องอาจจะได้รับกลับมาของเบี้ยเคลมประกันและภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งเหตุการณ์แผ่นดินไหวต้องบอกว่าผลกระทบระยะสั้น(น่าจะฟื้นตัวระยะต่อไป)ในช่วงแรกรายได้ของประชาชนยังไม่ถูกกระทบในวงกว้าง  ฉะนั้นธุรกิจล่าสุดยังไม่เห็นหยุดชะงัก รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานต่างๆยังคงเดินได้ต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามช่องทางต่างๆ ในแง่สถานการณ์จะเป็นอย่างไร  อีกทั้งในวันพรุ่งนี้จะมีการประกาศนโยบายภาษี( Tariff)ของสหรัฐเพิ่มเติมซึ่งต้องประเมินผลกันต่อไป

ต่อข้อถามถึงการผ่อนผันมาตรการLTVที่ออกมาประสิทธิผลอาจจะน้อย เพราะความเชื่อมั่นที่หายไปเนื่องจากแผ่นดินไหวนั้น  นายสักกะภพระบุว่า เราไม่ได้คิดว่าผลต่อเศรษฐกิจภาพรวมจะมากอยู่แล้ว  เป็นการช่วยปัญหาของภาคอสังหาที่ฟื้นตัวช้าจากเรื่องอุปทานคงค้างอยู่ในระดับสูง แต่แน่นอนผลกระทบจากแผ่นดินไหวที่เกิดคงจะส่งผลกระทบ แต่ยังเร็วไปที่จะบอกผลกระทบจะมีมากขนาดไหน แต่แน่นอนคงจะมีเรื่องการชะลอการตัดสินในในการซื้อ/ชะลอ อย่างไรก็ดีต้องติดตามความเชื่อมั่น   ความปลอดภัยจะทำได้เร็ว?

สอดคล้องนางปราณี สุทธศรี ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่า ผลกระทบเหตุการณ์แผ่นดินไหวเร็วไปที่จะประเมินผลเชิงตัวเลขเพราะต้องประเมินผลกระทบในหลายช่องทาง โดยเฉพาะความเชื่อมั่นและพฤติกรรมของประชาชนที่จะเปลี่ยนไป ซึ่งต้องติดตามพัฒนาการของสถานการณ์ต่างๆอย่างต่อเนื่อง

เบื้องต้นจากการพูดคุยกับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะภาคอสังหาริมทรัพย์มองว่าจะต้องเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมาส่วนตัวเลขต่างๆต้องรอการประเมินอีกครั้ง

ส่วนผู้ประกอบการภาคท่องเที่ยวมองว่าภาพข่าวที่ออกไปอาจจะทำให้นักท่องเที่ยวมีความกังวลหรืออาจจจะยกเลิกหรือเลื่อนการเดินทางเพราะกลัวไม่ปลอดภัย  ซึ่งตรงนี้จะส่งผลต่อ Sentimentการท่องเที่ยว ซึ่งต้องช่วยกันเรียกความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยกลับมา 

ด้านการจับจ่ายใช้สอยนั้นผู้ประกอบการประเมินว่าอาจจะชะลอลงในระยะสั้นๆ เนื่องจากครัวเรือนบางส่วนมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมสร้าง  แม้ว่าภาระบางส่วนจะสามรถเคลมประกันได้ แต่โดยรวมยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อประเมินผลต่อเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า

นอกจากนี้เหตุการณ์แผ่นดินไหวกระทบฐานะการเงิน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางที่มีภาระหนี้สูงอยู่แล้ว ที่ผ่านมาธปท.จึงออกหนังสือเวียนเพื่อขอความร่วมมือกับธนาคารพาณิชย์ให้ความช่วยเหลือธุรกิจและลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบเพื่อให้ผ่านพ้นช่วงที่ยากลำบากได้ได้

นางสาวพีรจิต  ปัทมสูต ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายคุ้มครองและตรวจสอบบริการทางการเงิน ธปท.กล่าวว่า สำหรับลูกหนี้ที่เข้าโครงการ”คุณสู้เราช่วย” อาจจะได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว ธปท.อยู่ระหว่างพูดคุยกระทรวงการคลังและสถาบันการเงินอยู่ ซึ่งจะนำเหตุผลความจำเป็นของลูกหนี้ซึ่งอาจจะมีรายละเอียดเพิ่มเติม

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 28มี.ค. จำนวนลูกหนี้ผู้ลงทะเบียน 1.1ล้านราย ซึ่งมีสิทธิเข้าร่วมโครงการ  4.5แสนรายเป็นวงเงินประมาณ 3.4แสนล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นลูกหนี้สินเชื่อที่อยู่อาศัย  ซึ่งสถาบันการเงินได้ส่งข้อความถึงลูกหนี้ที่มีสิทธิเข้าร่วมโครงการไปทั้งหมดแล้ว อย่างไรก็ตามลูกหนี้ที่เหลือยังสามารถลลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการนี้ได้ภายในวันที่ 30เม.ย.2568 ทั้งนี้ ในส่วนลูกหนี้ผู้ประกอบการSMEยอดลงทะเบียนต่ำกว่าลูกหนี้สินเชื่อที่อยู่อาศัย

เอกชนจี้รัฐเร่ง “ฟื้นเชื่อมั่น-ความปลอดภัย” ผลกระทบแผ่นดินไหว