ความคืบหน้าคดีทุจริตใน บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ STARK หลังจากเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.พ.67) ศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับนายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ ผู้ต้องหาที่ไม่เข้ามาฟังคำสั่งของพนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ 1 เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา ล่าสุดมีรายงานว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ได้เข้าคุมตัวนายวนรัชต์ ระหว่างรักษาโรคหัวใจด้วยการทำบอลลูนหัวใจ ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ในกรุงเทพมหานคร ในลักษณะเฝ้าคุมตัว ดูความเคลื่อนไหวป้องกันการหลบหนี
พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดี รักษาการอธิบดี DSI กล่าวว่า ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษได้เข้าคุมตัวนายวนรัชต์ ขณะเข้ารับการผ่าตัดทำบอลลูนหัวใจที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นลักษณะเฝ้าคุมตัวเพื่อรอศาลเปิดทำการ และเตรียมนำตัวส่งพนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษยื่นฟ้องต่อศาลอาญา ซึ่งคาดว่าจะเป็นวันที่ 12 ก.พ.
ผู้ต้องหาเข้ารับการผ่าตัดเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว อาการปลอดภัย จากนี้ยังต้องติดตามดูอาการว่าหลังการผ่าตัด ผู้ต้องหาสามารถให้การช่วยเหลือตัวเองได้หรือไม่ ถ้าภายหลังการผ่าตัดยังไม่หายดี ยังให้การช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เท่าที่ควร ก็จะต้องมีการประเมินกับทางแพทย์ผู้ทำการตรวจรักษาอีกครั้ง แต่ยืนยันว่าผู้ต้องหาไม่สามารถหลบหนีได้แน่นอน
"ในวันนี้เรายังไม่ได้ทำการจับกุม แต่ว่าไปขอหมายจับจากศาลเพราะเกรงว่าจะมีพฤติการณ์หลบหนี จากนั้นจึงให้เจ้าหน้าที่เฝ้าผู้ต้องหาไว้ก่อนถึงวันส่งฟ้องต่อศาล"
สำหรับคดีทุจริตใน STARK มา พนักงานอัยการฯได้ยื่นฟ้องผู้ต้องหาในคดีทุจริต STARK ไปแล้ว 7 ราย ล่าสุดเมื่อวานนี้(9ก.พ.2567) ได้ยื่นฟ้องต่อศาลเพิ่มเติมอีก 2 ราย นางสาวยสบวร อำมฤต และนายกิตติศักดิ์ จิตต์ประเสริฐ ในความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 ฐานตกแต่งบัญชีและงบการเงิน และฐานฉ้อโกงประชาชนฯ ข้อหายักยอกทรัพย์ และข้อหาฟอกเงิน
ในส่วนของนายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 ได้พิจารณาสำนวนคดีดังกล่าวแล้วมีคำสั่งฟ้อง นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ ผู้ต้องหาที่ 2 ในความผิดฐานเป็นกรรมการหรือผู้บริหารบริษัทกระทำโดยทุจริต ไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ความระมัดระวัง และความซื่อสัตย์สุจริต ตามมาตรา 89/7 พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ
จนเป็นเหตุให้บริษัทได้รับความเสียหายหรือทำให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์จากการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว ในการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการบริษัทย่อยและผู้บริหารบริษัทย่อย , กรรมการ ผู้จัดการ หรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของนิติบุคคลใดตาม พ.ร.บ.นี้ โดยทุจริต
ร่วมกันหลอกลวงด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จแก่ประชาชน หรือด้วยการปกปิดความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชน และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากประชาชนผู้ถูกหลอกลวง หรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ประชาชนผู้ถูกหลอกลวง หรือบุคคลที่สามทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ , กรรมการ ผู้จัดการหรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของนิติบุคคลใดตาม พ.ร.บ.นี้ กระทำหรือยินยอมให้กระทำ
(1) ทำให้เสียหาย ทำลาย เปลี่ยนแปลง ตัดทอน หรือปลอมบัญชีเอกสาร หรือหลักประกันของนิติบุคคลดังกล่าว หรือที่เกี่ยวกับนิติบุคคลดังกล่าว
(2) ลงข้อความเท็จหรือไม่ลงข้อความสำคัญในบัญชีหรือเอกสารของนิติบุคคลหรือที่เกี่ยวกับนิติบุคคลนั้น
หรือ (3) ทำบัญชีไม่ครบถ้วน ไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบันหรือไม่ตรงต่อความเป็นจริงถ้ากระทำหรือยินยอมให้กระทำเพื่อลวงให้นิติบุคคลดังกล่าวหรือผู้ถือหุ้นขาดประโยชน์อันควรได้หรือลวงบุคคลใดๆ ร่วมกันโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชน และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวง หรือบุคคลที่สาม ตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91, 343