เปิดหลักสูตรคดีเกี่ยวกับตลาดทุนหนุน “ฟ้องคดีแบบกลุ่ม”

11 พ.ค. 2566 | 03:57 น.

สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย ผนึกกำลัง สภาทนายความ เปิดหลักสูตรด้านคดีตลาดทุนหนุนทนายช่วยรายย่อยถูกโกง - ดันพรบ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฏหมายวิธีพิจารณาความแพ่งฯ “การดำเนินคดีแบบกลุ่ม” ให้มีผลบังคับใช้ในทางปฏิบัติชัดเจนมากขึ้น

สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย ผนึกกำลัง สภาทนายความ เพิ่มความรู้  ด้านคดีความที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุน หรือตลาดหุ้น ให้ทนายความทั่วประเทศ พร้อมเดินหน้าตั้ง   “ศูนย์ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ในการฟ้องคดีแบบกลุ่ม - Class Action”   รองรับการหลอกลวงและฉ้อฉลมนุษย์ จนเกิดความเสียหายให้กับผู้ลงทุนรายบุคคล หรือรายย่อย อย่างกว้างขวาง

 

 นาย ยิ่งยง นิลเสนา นายกสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย เปิดเผยว่า ทางสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย   เตรียมการจัดตั้ง  “ศูนย์ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ในการฟ้องคดีแบบกลุ่ม - Class Action”   เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฏหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2558 ว่าด้วยการดำเนินคดีแบบกลุ่ม ซึ่งมีผลบังคับใช้ไปแล้ว เมื่อ วันที่ 08 ธันวาคม 2558 มีผลบังคับใช้ในทางปฏิบัติชัดเจนมากขึ้น

เพราะหลังมีกฎหมายแล้ว ยังไม่เกิดการบังคับใช้อย่างเป็นรูปธรรม ในทางกลับกันยังพบว่าสถิติของผู้กระทำความผิด มีจำนวนมากขึ้นด้วย  โดยเฉพาะกรณี การมีภัยในตลาดทุน โดยเฉพาะ การฉ้อฉลที่เกิดจากฝีมือของมนุษย์ จนเกิดความเสียหายให้กับผู้ลงทุนรายบุคคล หรือรายย่อย อย่างกว้างขวาง

  เปิดหลักสูตรคดีเกี่ยวกับตลาดทุนหนุน “ฟ้องคดีแบบกลุ่ม”

นอกจากนี้ จากผลการวิจัย ของคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบว่า ปัจจัยเหตุส่วนหนึ่ง มาจากการเริ่มต้นคดีความของ “ทนายความ”  ที่จะเป็นผู้รวบรวมข้อมูลอันเป็นสารตั้งต้นของการเดินทางตามกระบวนการยุติธรรมนั้น ยังอาจต้องเติมความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับธุรกิจหลักทรัพย์ เพื่อเป็นส่วนสำคัญในการช่วยเยียวยาผู้เสียหายในการดังกล่าว

 

ดังนั้นทางสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทยจึงได้ ผนึกความร่วมมือกับ สภาทนายความในพระบรมราชูปภัมภ์ เปิดหลักสูตรให้กับสมาชิกของสภาฯ ที่กระจายกันอยู่ทั่วประเทศ กว่า 8 หมื่นคน ได้อบรมและเพิ่มความรู้คดีที่เกี่ยวกับตลาดทุน

 

“คดี เรื่องการฟ้องคดีแบบกลุ่ม เป็นเรื่องใหม่ จึงจำเป็นที่จะต้องใช้ประสบการณ์ ความรู้ความคิดเห็น จากหลากหลายฝ่าย มาช่วยกันต่อเติม ตกผลึก และนำไปสู่การยกร่าง ศูนย์ฯ อย่างเป็น รูปธรรมได้ในอนาคต และเป็นความร่วมมือที่จะนำไปสู่มรรคผล ของการบังคับใช้กฎหมาย รวมทั้ง ช่วยทำให้เกิดบรรยากาศ แห่งการมีเสถียรภาพด้านการลงทุน บนหลักการ มีธรรมาภิบาลที่ดีได้อีกทางหนึ่ง” นายยิ่งยงกล่าว

 

ด้าน ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความในพระบรมราชูปภัมภ์ กล่าวว่า  “นับเป็นเรื่องใหม่ ของวิชาชีพทนายความ ในการเพิ่มความรู้ เติมประสบการณ์ความเป็นมืออาชีพ ด้านคดีความที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุน หรือตลาดหุ้น ที่ซื้อขายกันอยู่ทุกวัน เมื่อเกิดความเสียหายขึ้นกับพี่น้องประชาชน-นักลงทุน อาชีพทนายความ ย่อมเป็นที่พึ่ง ในการแสวงหาความยุติธรรม และการให้ความช่วยเหลือ เยียวยา ในรูปแบบต่างๆ เป็นเรื่องน่ายินดีที่ตรงกับอรรถพจน์การทำงานของสภาทนายฯ อีกด้วย”