"มูดี้ส์"หั่นเครดิต"ซิกเนเจอร์ แบงก์"สู่อันดับขยะ อีก 6 ธนาคารจ่อคิวรอ 

14 มี.ค. 2566 | 10:16 น.

6 แบงก์สหรัฐจ่อคิวเตรียมถูกหั่นอันดับความน่าชื่อถือหลัง"มูดี้ส์"หั่นเครดิต"ซิกเนเจอร์ แบงก์"สู่อันดับขยะ พร้อมถอนการจัดอันดับในอนาคตสำหรับธนาคารแห่งนี้ 

มูดี้ส์ สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ของสหรัฐอเมริกาได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของ ธนาคารซิกเนเจอร์ แบงก์ (Signature Bank) ลงสู่ระดับ "C" ซึ่งเป็นระดับขยะ (junk) พร้อมถอนการจัดอันดับในอนาคตสำหรับธนาคารแห่งนี้ หลังธนาคาร SB ถูกสั่งปิดแบบกะทันหันเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ธนาคาร SB ซึ่งเป็นธนาคารในรัฐนิวยอร์ก ถูกหน่วยงานกำกับดูแลกฎระเบียบสหรัฐสั่งปิดเมื่อวันอาทิตย์ (12 มี.ค.) ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ธนาคารล้มครั้งใหญ่สุดเป็นอันดับสามในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา โดยเกิดขึ้นเพียง 2 วันหลังจากเจ้าหน้าที่สหรัฐดำเนินการปิดธุรกิจธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) จนทำให้บริษัทและนักลงทุนไม่สามารถทำธุรกรรมใด ๆ กับเงินฝากที่มีมูลค่ามหาศาลได้ 

ทั้งนี้ ซิกเนเจอร์ แบงก์ หรือ SB เป็นหนึ่งในธนาคารรายใหญ่ที่ปล่อยเงินกู้ให้กับอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซี โดยราคาหุ้นของซิกเนเจอร์ แบงก์ ร่วงลงเกือบ 40% ในปีนี้ หลังจากซิลเวอร์เกต แคปิตอล (Silvergate Capital) ซึ่งเป็นธนาคารคู่แข่ง ได้ประกาศยุติการดำเนินงานและขายสินทรัพย์ของธนาคารซิลเวอร์เกต แบงก์ (Silvergate Bank)เพื่อชำระหนี้     
 
จากข้อมูลที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐระบุว่า ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2565 ซิกเนเจอร์ แบงก์ (SB) มีสินทรัพย์โดยรวมมูลค่า 1.104 แสนล้านดอลลาร์ และมีเงินฝากทั้งสิ้น 88,600 ล้านดอลลาร์

 

วิกฤตธนาคารยังลามไม่หยุด

ขณะเดียวกัน มูดี้ส์ระบุว่า กำลังพิจารณาที่จะลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารในสหรัฐอีก 6 แห่งด้วยกัน ซึ่งประกอบด้วย

  1. เฟิร์สต์ รีพับลิก แบงก์ (First Republic Bank)
  2. ไซออนส์ แบนคอร์ปอเรชั่น (Zions Bancorporation)
  3. เวสต์เทิร์น อลิอันซ์ บันคอร์ป (Western Alliance Bancorp)
  4. โคเมริกา อิงค์ (Comerica Inc)
  5. ยูเอ็มบี ไฟแนนเชียล คอร์ป (UMB Financial Corp)
  6. และอินทรัสต์ ไฟแนนเชียล คอร์ปอเรชั่น (Intrust Financial Corporation)

ลูกค้า FTX ฟ้องซิลเวอร์เกต-ซิกเนเจอร์ ร่วมโกง 

ความคืบหน้ากรณีการล่มสลายของธนาคารซิกเนเจอร์ แบงก์ (Signature Bank)และซิลเวอร์เกต แบงก์ (Silvergate Bank)ที่รายแรกได้ถูกสั่งปิด และรายหลังถูกประกาศเลิกกิจการ โดยทั้งคู่ต่างเป็นธนาคารที่ปล่อยกู้ให้กับอุตสาหกรรมคริปโต กำลังส่งผลกระทบต่อบรรดาลูกค้าของเอฟทีเอ็กซ์ (FTX) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนคริปโตเคอร์เรนซีที่ประสบกับภาวะล้มละลาย

ทั้งนี้ เนื่องจากหลัง FTX ล้มละลาย ลูกค้าของ FTX ได้ยื่นฟ้องร้องอย่างน้อย 4 คดีซึ่งกล่าวหาว่า ธนาคารซิลเวอร์เกต หรือธนาคารซิกเนเจอร์ฯ มีส่วนช่วยเหลือให้คนวงในของ FTX ฉ้อโกงเงินของลูกค้า โดยข้อกล่าวหามีเพียงแค่นั้น และการดำเนินคดี ก็ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานวันนี้ (14 มี.ค.)ว่า ทั้งกระทรวงยุติธรรมสหรัฐและหน่วยงานกำกับดูแลด้านกฎหมายอื่น ๆ ของสหรัฐ ยังไม่ได้ตั้งข้อหาซิลเวอร์เกตหรือซิกเนเจอร์ว่ามีส่วนร่วมในการฉ้อโกงเงินของลูกค้า FTX หรือไม่ อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนที่แล้วสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ซิลเวอร์เกตกำลังถูกอัยการสอบสวน

ด้านโฆษกของซิลเวอร์เกตปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับข้อกล่าวหาดังกล่าวของลูกค้า FTX ขณะที่ซิกเนเจอร์ก็ยังไม่ได้ตอบกลับการสอบถามของทางรอยเตอร์เช่นกัน อย่างไรก็ดี เป็นเรื่องเข้าใจได้ว่าเพราะเหตุใดทนายความของลูกค้า FTX จึงพุ่งเป้าไปที่ธนาคารทั้งสองแห่งดังกล่าว เนื่องจากหวังว่าสองธนาคารจะสามารถจ่ายเงินคืนใหัลูกค้าได้ ขณะที่ FTX นั้นอยู่ในสถานะล้มละลายตามมาตราที่ 11 ของกฎหมายล้มละลายของสหรัฐ (Chapter 11) และคนวงในของ FTX เองก็กำลังเผชิญกับการเรียกร้องค่าเสียหายในการฟ้องร้องดำเนินคดีโดยรัฐบาลสหรัฐด้วย