SVR เปิดเทรดวันแรก 3.26 บาท ดีดแรงเหนือไอพีโอ 48.18%

08 ก.พ. 2566 | 03:09 น.

บมจ.สิวารมณ์ เรียลเอสเตท “SVR” เปิดเทรดตลาด mai วันแรก ( 8 ก.พ.) ราคาดีดแรง 48.18 % หรือบวก 1.06 บาท อยู่ที่ระดับ 3.26 บาท จากไอพีโอที่ 2.20 บาทต่อหุ้น

 

วันนี้ (8 ก.พ.66) บริษัท สิวารมณ์ เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ SVR เข้าจดทะเบียนและซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เป็นวันแรก ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,122 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า SVR 

การเคลื่อนไหวของราคา SVR เปิดเทรดราคาปรับขึ้น 48.18 % หรือบวก1.06 บาท อยู่ที่ระดับ 3.26 บาท จากราคาไอพีโอ 2.20  บาทต่อหุ้น และ ล่าสุดเมื่อเวลา 10.03  น. ราคาอยู่ที่ 2.86 บาท ปรับขึ้น 0.66% หรือบวก 30.00% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 542.11 ล้านบาท ราคาปรับสูงสุด 3.30 บาท และต่ำสุดที่ 2.76 บาท  

 

บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า บมจ.สิวารมณ์ เรียลเอสเตท (SVR) ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายประเภทแนวราบครอบคลุม บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม และอาคารพาณิชย์ มีจุดแข็งคือแนวคิด Best Smart Living เน้นออกแบบ จัดสรรพื้นที่ การใช้เทคโนโลยี บนทำเลที่มีศักยภาพ ในราคาที่คุ้มค่า ปัจจุบันพัฒนาโครงการแล้ว 9 โครงการในทำเลบางปูและนิคมอุตสาหกรรม อย่าง ชลบุรีและระยอง
         

ปัจจัยการเติบโตมาจากจำนวนโครงการที่พัฒนาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คาดกำไรสุทธิปี 66 +241% Y-Y ที่ 186 ล้านบาท บนสมมติฐานบริษัทมีแผนเปิดตัวใหม่ 3 โครงการ กระจายในทำเลใหม่และกลุ่มลูกค้าใหม่ ประเมินมูลค่าหุ้น SVR อิง PER 8.0 เท่า ได้ราคาเหมาะสมปี 66 ที่ 3.00 บาท สร้างจุดขายด้วยแนวคิด Best Smart Living

ภาพรวมปี 66 ตลาดอสังหาฯ มีแนวโน้มฟื้นตัวตามเศรษฐกิจ โดยบ้านแนวราบยังคงได้รับการตอบรับดีจากผู้ซื้อ อ้างอิงข้อมูลจากศูนย์วิจัยกรุงศรีคาดการณ์ปี 66-67 ยอดขายตลาดที่อยู่อาศัยเติบโต 5-7% ต่อปี (จากปี 65 คาด +4.5% Y-Y ) จากความต้องการแนวราบยังเพิ่มขึ้น เนื่องจากตอบโจทย์การอยู่อาศัยระยะยาวจากพื้นที่ใช้สอยและฟังก็ชั่นที่เอื้อต่อการทำงานที่บ้านมากขึ้นจะได้อานิสงค์จากการพัฒนาทำเลชานเมืองจะได้รับนิยมสูงขึ้น ซึ่งราคาที่ดินยังไม่สูงเท่าใจกลางเมืองและการขยายเส้นทางโครงการรถไฟฟ้าเส้นทางที่ครอบคลุมพื้นที่รอบนอกมากขึ้น
       

กำไรปี 66 คาดโตก้าวกระโดดจากการเปิดตัวโครงการใหม่มากขึ้นประเมินกำไรสุทธิปี 65 ที่ 54 ล้านบาท (+6% Y-Y) อย่างไรก็ดี ปี 66-67 คาดผลการดำเนินงานจะเติบโตก้าวกระโดดเป็น 186 ล้านบาท (+241% Y-Y) และ 189 ล้านบาท (+2% Y-Y) ตามลำดับ หนุนจากยอดโอนที่เร่งขึ้นบนสมมติฐานบริษัทจะมีแผนเปิดโครงการใหม่ 3 โครงการต่อปี รวมถึงอัตรากำไรขั้นต้นคาดขยับขึ้นจาก Project Mixed โครงการใหม่ที่เป็น Segment บน และ SG&A ต่อรายได้จะลดลงจาก Economy of scale

ประเมินมูลค่าของ SVR ด้วยวิธี Relative PE ที่ 8.0 เท่า ใกล้เคียงกับ Forward PE2023 ของบริษัทที่ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 12 รายหลัก คำนวณมูลค่าเหมาะสมปี 66 ที่ 3.00 บาท แต่ประมาณการของเราขึ้นกับความสำเร็จของการเปิดขายโครงการใหม่ โดยสัดส่วนรายได้ปี 66 มาจาก 3 โครงการที่เปิดใหม่ราว 23% ซึ่งมีความเสี่ยงด้านยอดโอนที่อาจต่ำกว่าคาดหากยอดขายไม่เป็นไปตามเป้า เนื่องจากเป็นการเริ่มพัฒนาในทำเลใหม่และกลุ่มลูกค้าใหม่ที่เป็น Segment บน รวมถึงการแข่งขันรุนแรงส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นอาจต่ำกว่าสมมติฐาน

นายรณฤทธิ์  ฐิติสุริยารักษ์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินอาวุโส บมจ.สิวารมณ์ เรียลเอสเตท หรือ “SVR” กล่าวว่า การนำหุ้น“SVR”เข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai เปิดโอกาสให้บริษัทจัดหาแหล่งเงินทุนจากตลาดทุน และเป็นโอกาสดีที่นักลงทุนจะร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จและเติบโตไปพร้อมๆ กับ“SVR”   

ทั้งนี้ บริษัทฯวางแผนจัดหาที่ดิน ที่มีศักยภาพในการพัฒนาโครงการใหม่ๆให้ครอบคลุมเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล และพร้อมการสู่การเติบโตในระดับ High Growth (หุ้นที่มีอัตราการเติบโตสูง) High Return (หุ้นที่มีผลตอบแทนสูง) ได้อย่างมั่นคงยั่งยืน สู่การเป็นผู้นำพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบ Premium Economy เป็นรายแรก

เผยจุดแข็ง SVR 

จุดแข็ง SVR คือ 1.พัฒนาโครงการที่หมุนรอบเร็ว หรือ Quick turnover : วิเคราะห์ทำเลตั้งแต่การเลือกซื้อที่ดิน พร้อมวางแผนในการซื้อที่ดินต่อโครงการไม่เกิน 50 ไร่ ทำให้สามารถกระจายการพัฒนาโครงการได้ ในหลากหลายพื้นที่ ซึ่งมีความเหมาะสมกับความต้องการและไม่เกิดอุปทานส่วนเกิน ส่งผลให้โครงการของ “SVR” สามารถขายได้หมดภายใน 1 ถึง 3 ปี ทำให้บริษัทฯสามารถหมุนรอบในการทำการขายได้เร็ว

 2. ก่อสร้างเร็ว - ขายเร็ว - ส่งมอบเร็ว : การก่อสร้างด้วยระบบ Precast (พรีคาสท์)เพื่อลดระยะเวลาในการก่อสร้าง ทำให้ลดภาระดอกเบี้ยเงินกู้ นอกจากนี้ บริษัทฯมีอำนาจในการต่อรองราคาวัสดุก่อสร้าง จาก Suppliers (ซัพพลายเออร์) ส่งผลให้บริษัทฯมีอัตราการทำกำไรที่ดี

3.ความ“คุ้มค่า”แบบ Premium Economy : บริษัทฯสร้างบ้านแบบ Premium Economy  ให้ลูกค้าสัมผัสได้ถึงความคุ้มค่าของบ้านในระดับพรีเมียม บนพื้นฐานของราคาบ้านที่ประหยัดในระดับราคา1 -7 ล้านบาท โดยกลยุทธ์ดังกล่าวสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการที่อยู่อาศัยจริง  (Real Demand) และตอบโจทย์ทุก Lifestyle ทุก Generation ได้อย่างลงตัว 

ด้านนโยบายในการจ่ายเงินปันผลนั้น บริษัทฯมีนโยบายจ่ายในอัตราไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการ 

 

10 อันดับผู้ถือหุ้นใหญ่ บมจ.สิวารมณ์ เรียลเอสเตท หรือ “SVR” 

 

  • นาง ธัญรัตน์ โชติกวาณิชย์ สัดส่วน 10.59%
  • นาย อรรถปวิทย์ มโนธรรมรักษา สัดส่วน 10.59%
  • นางสาว สรัญญา ฐิติสุริยารักษ์ สัดส่วน 8.24%
  • นาย พิสิษฐ์ มโนธรรมรักษา สัดส่วน 7.10%
  • นาง อังคณา ใช้สิทธิชัย สัดส่วน 6.86%
  • นาย ชาตรี เตชะปภา สัดส่วน 3.92%
  • นาย พชร มโนธรรมรักษา สัดส่วน 3.18%
  • นางสาว สมลักษณ์ ชูทอง สัดส่วน 3.18%
  • นางสาว เกษณี สารประสิทธิ์ สัดส่วน 2.12%
  • นาง กัญญารัตน์ สุวรรณฤกษ์ สัดส่วน 2.12%