IRPC งบรวมปี65 ขาดทุน 4.36 พันล้านบาท เหตุขาดทุนสต๊อกน้ำมัน

08 ก.พ. 2566 | 00:43 น.

IRPC งบปี 65 พลิกขาดทุน 4,364 ล้าน จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 14,505 ล้าน หรือลดลง 130% ขณะที่งบ Q 4/65 ขาดทุน 7,149 ล้านบาท เหตุอัตรากลั่นลดลง 9% จากการปิดซ่อม ขาดทุนสต๊อก

 

นายพิจินต์ อภิวันทนาพร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บัญชีและการเงิน บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 4/2565 บริษัท ฯ มีผลขาดทุนสุทธิ 7,149 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน (YoY )ที่มีกำไรสุทธิ 2,194 ล้านบาท และขาดทุนเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน ( QoQ) ที่ขาดทุนสุทธิ 2,549 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้จากการขายสุทธิ 55,081 ล้านบาท ลดลง 19% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และลดลง 37% จากไตรมาสก่อน

โดยมีสาเหตุจากปริมาณขายลดลง 33% ขณะที่ราคาขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 14% ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับเพิ่มขึ้น โดยโรงกลั่นน้ำมันมีอัตราการกลั่นอยู่ที่ 119,000 บาร์เรลต่อวัน ลดลง  40% มีกำไรขั้นต้นจากการผลิตตามราคาตลาด (Market GIM) ลดลง 4,071 ล้านบาท หรือลดลง 61% โดยมีสาเหตุหลักจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ ปิโตรเคมีปรับตัวลดล

ขณะปี 2565 บริษัท ฯ มีรายได้จากยอดขายสุทธิ 318,396 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีสาเหตุจากราคาขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 43% ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่ปริมาณขายลดลง 8% โดยโรงกลั่นน้ำมันมีอัตราการกลั่นอยู่ที่ 175,000 บาร์เรลต่อวัน ลดลง 9% เนื่องจากการหยุดซ่อมบำรุงใหญ่ตามแผนในไตรมาส 4/2565 ประมาณ 1 เดือน
 

IRPC งบรวมปี65 ขาดทุน 4.36 พันล้านบาท เหตุขาดทุนสต๊อกน้ำมัน

 

กำไรขั้นต้นจากการผลิตตามราคาตลาด (Market GIM) อยู่ที่ 23,761 ล้านบาท (10.57 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล) ลดลง 20% เนื่องจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีปรับตัวลดลง ประกอบกับต้นทุน Crude Premium ปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะนน้ำมันดีเซล และน้ำนเบนซิน

ทั้งนี้สถาการณ์ราคาน้ำมันดิบในปี 2565 ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากจากปี 2564 ที่ราคาเฉลี่ย 69.24 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล เป็น 96.34 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล โดยมีสาเหตุหลักจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศรัสเซียและประเทศยูเครน ขณะที่ความกังวลต่ออัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession)

เป็นปัจจัยกดดันราคาน้ำมันดิบในช่วงปลายปีส่งผลให้บริษัทฯบันทึก Net Inventory Loss รวม 6,348 ล้านบาท หรือ 2.82 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ประกอบด้วยกำไรจากสต๊อกน้ำมัน 4,384 ล้านบาท ขณะที่มีรายการปรับลดมูลค่าสินค้าคงเหลือให้เท่ากับมูลค่าสุทธิที่ได้รับ (NRV) 2,347 ล้านบาท และขาดทุนจากการบริหารความเสี่ยงน้ำมันที่เกิดขึ้นจริง (Realized Oil Hedging) 8,385 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนที่มี Net Inventory Gain 11,104 ล้านบาท หรือ 4.92 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขั้นต้นจากการผลิตทางบัญชี (Accounting GIM) จำนวน 17,413 ล้านบาท หรือ 7.75 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ลดลง 23,279 ล้านบาท หรือ 10.29 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล

 

บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายดำเนินงานจำนวน 12,813 ล้านบาท ลดลง 6% ส่งผลให้บริษัทมีกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษีและค่าเสื่อมราคา (EBITDA) จำนวน 3,987 ล้านบาท ลดลง 22,974 ล้านบาท หรือลดลง 85%

ด้านทิศทางและแนวโน้มราคาน้ำมันดิบปี 2566 คาดความต้องการใช้น้ำมันของโลกอยู่ที่ประมาณ 103 ล้านบาร์เรลต่อวัน เทียบเท่ากับในสภาวะก่อนการระบาดของ COVID-19  โดยคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมัน ดังกล่าวเพิ่มขึ้นประมาณ 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน เทียบกับปี 2565 ที่อยู่ที่ 101 ล้านบาร์เรลต่อวัน 

ขณะที่ทิศทางธุรกิจปิโตรเคมี คาดความต้องการของตลาดจะเติบโตประมาณ 1.5-2% ในปี 2566 โดยเฉพาะความต้องการจากประเทศจีนที่จะเริ่มฟื้นตัวกลับมาจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุม  COVID-19 และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ  

 

ปันผล 0.03 บาทต่อหุ้น /XD 21 ก.พ.นี้ 

 

บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน)หรือ  IRPC แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าคณะกรรมการบริษัท ได้อนุมัติจ่ายเงินปันผล จากกำไรสะสม อัตรา 0.03 บาทต่อหุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 21 ก.พ. 2566  กำหนดวันปิดสมุดทะเบียนเพื่อสิทธิปันผลในวันที่ 22 ก.พ. 2566  และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 26 เม.ย.2566