ไฟเขียวแผนพัฒนาตลาดทุนไทย ฉบับ 4 สร้างความยั่งยืน

31 ม.ค. 2566 | 09:45 น.

คลังเผยครม.รับทราบแผนพัฒนาตลาดทุนไทย ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2565 – 2570) กำหนด 5 ยุทธศาสตร์ สร้างความยั่งยืน หนุนตลาดทุนดิจิทัล ส่งเสริม-ประยุกต์ใช้เทคโนโลยี

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้รับทราบแผนพัฒนาตลาดทุนไทย ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2565 – 2570) หลังจากแผนพัฒนาตลาดทุนไทย ฉบับที่ 3 สิ้นสุดในปี 2564 

 

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ จึงได้ตั้งคณะทำงานจัดทำแผนพัฒนาตลาดทุนไทย เพื่อดำเนินการจัดทำแผนพัฒนาตลาดทุนฯ ฉบับที่ 4  ซึ่งมีสาระสำคัญ สรุปได้ ดังนี้

โดยแผนพัฒนาตลาดทุนฯ ฉบับที่ 4 มีพัฒนาการที่สานต่อจากแผนพัฒนาตลาดทุนฯ ฉบับที่ 3 ซึ่งคำนึงถึงปัจจัยความท้าทายและทิศทางการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจโลก (Mega Trends) ที่ส่งผลกระทบต่อตลาดทุนในหลายด้านที่สำคัญ อาทิ

  • ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
  • การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
  • สังคมสูงวัย
  • ภูมิรัฐศาสตร์
  • การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่

นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นการสร้างภูมิทัศน์ของภาคตลาดทุนไทยในอนาคตให้ตอบสนองเป้าหมายการขับเคลื่อนใน 7 ด้าน ได้แก่

  1. ความยั่งยืนของระบบเศรษฐกิจและการจัดสรรเงินทุนภายในประเทศได้อย่างเหมาะสม (Domestic Fund Mobilization)
  2. การเติบโตเชิงคุณภาพ (Quality Growth) และการส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนในตลาดทุนประกอบธุรกิจอย่างมีจริยธรรม
  3. การให้ความสำคัญกับการเข้าถึงตลาดทุนของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและวิสาหกิจเริ่มต้น (Small and Medium-size Enterprises: SMEs/Startup) และผู้ลงทุนรายย่อยในการใช้ประโยชน์จากตลาดทุนมากขึ้น
  4. ตลาดทุนสามารถบรรลุเป้าหมายที่ท้าทายมากขึ้น อาทิ ตำแหน่งในระดับสากล การเข้าถึงตลาดทุนของผู้ระดมทุนและผู้ลงทุนเพื่อการใช้ประโยชน์จากตลาดทุนได้มากขึ้น เป็นต้น
  5. การใช้ประโยชน์จากดิจิทัลและการใช้ประโยชน์จากข้อมูลร่วมกัน
  6. ความสอดคล้องกัน (Harmonization) ระหว่างสินทรัพย์ดั้งเดิมและสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึงการสอดประสานและร่วมมือกันของหน่วยงานกำกับดูแล (Cross-Discipline)
  7. สาธารณชนมีความเชื่อมั่นต่อตลาดทุนไทย (Public Trustworthiness)

ทั้งนี้ แผนพัฒนาตลาดทุนฯ ฉบับที่ 4 ประกอบด้วย 5 ยุทธศาตร์ โดยแบ่งเป็น 29 แผนงาน เพื่อรองรับการบรรลุวิสัยทัศน์และพันธกิจข้างต้น ได้แก่

ยุทธศาสตร์ที่ 1 ตลาดทุนเพื่อการแข่งขันได้ (Competitiveness) เป็นการเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันของทุกภาคส่วนในตลาดทุนไทยและระบบเศรษฐกิจ ประกอบด้วย 11 แผนงาน โดยมีแผนงานที่สำคัญ เช่น การแก้ไขพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 เป็นต้น

ยุทธศาสตร์ที่ 2 ตลาดทุนที่เข้าถึงได้ (Accessibility) เป็นตลาดทุนที่เอื้อให้ทุกภาคส่วนสามารถเข้ามาใช้ประโยชน์ได้ ประกอบด้วย 8 แผนงาน โดยมีแผนงานที่สำคัญ เช่น การสนับสนุนให้กลุ่มธุรกิจเป้าหมายซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่แห่งอนาคต (New Economy) เป็นต้น

ยุทธศาสตร์ที่ 3 ตลาดทุนดิจิทัล (Digitalization) เป็นการส่งเสริม ประยุกต์ และใช้เทคโนโลยีและดิจิทัลในตลาดทุน ประกอบด้วย 6 แผนงาน โดยมีแผนงานที่สำคัญ เช่น โครงการ Digital Infrastructure (DIF) เพื่อเป็นโครงสร้างพื้นฐานกลางในตลาดทุน เป็นต้น

ยุทธศาสตร์ที่ 4 ตลาดทุนเพื่อความยั่งยืน (Sustainability) เป็นการมุ่งเน้นส่งเสริมความยั่งยืนของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุนไทยและระบบเศรษฐกิจในระยะยาว ประกอบด้วย 1 แผนงาน ได้แก่ มาตรการส่งเสริมและพัฒนาให้ตลาดทุนไทยเติบโตอย่างยั่งยืน (ESG)

ยุทธศาสตร์ที่ 5 ตลาดทุนเพื่อความอยู่ดีมีสุขทางการเงิน (Financial well-being) เป็นการมุ่งเน้นสร้างผลลัพธ์ทางการเงินที่ดี รวมถึงการสร้างโอกาสในการลงทุน โดยมีการบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม ประกอบด้วย 3 แผนงาน โดยมีแผนงานที่สำคัญ เช่น การพัฒนาทักษะทางการเงินของคนไทย (Financial Literacy) เป็นต้น