เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 38.04 บาทต่อดอลลาร์ฯ

12 ต.ค. 2565 | 12:06 น.

เงินบาทกรอบการ "อ่อนค่า"เป็นไปอย่างจำกัด ขณะที่มีแรงซื้อคืนเงินเอเชียบางส่วน หลังธนาคารกลางเกาหลีใต้ปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก

เงินบาทแกว่งตัวในกรอบ 37.92-38.28 บาทต่อดอลลาร์ฯ ก่อนจะกลับมาปิดตลาดที่ระดับ 38.04 บาทต่อดอลลาร์ฯ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุเงินบาทยังคงมีจังหวะอ่อนค่าตามทิศทางสกุลเงินเอเชียในภาพรวมและสถานะฟันด์โฟลว์ของนักลงทุนต่างชาติในตลาดหุ้นและพันธบัตรไทย อย่างไรก็ดี กรอบการอ่อนค่าของเงินบาทเป็นไปอย่างจำกัด ขณะที่มีแรงซื้อคืนเงินเอเชียบางส่วน หลังธนาคารกลางเกาหลีใต้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.50% ไปที่ 3.00% ขณะที่แรงหนุนเงินดอลลาร์ฯ เริ่มชะลอลง เนื่องจากนักลงทุนกลับมารอติดตามดัชนีราคาผู้ผลิต (ในคืนนี้) และดัชนีราคาผู้บริโภค (วันพฤหัสบดี) ของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด

สำหรับทิศทางฟันด์โฟลว์ในวันนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 932.08 ล้านบาท และมีสถานะเป็น Net Outflows จากตลาดพันธบัตร 3,591 ล้านบาท (ขายสุทธิ 1,822 ล้านบาท และมีตราสารหนี้ที่หมดอายุ 1,769 ล้านบาท) 

ส่วนค่าเฉลี่ย Indicative forward points ของธุรกรรมระยะ 3 เดือนสำหรับผู้ประกอบการที่มีรายได้ 50-200 ล้านบาทต่อปี รายงานข้อมูล ณ 10.00 น. วันที่ 12 ตุลาคม 2565 โดยธปท. อยู่ที่ -28.81 สำหรับผู้ส่งออก (ขายเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า) และที่ -24.62 สำหรับผู้นำเข้า (ซื้อเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า) 

สำหรับทิศทางของเงินบาทในสัปดาห์หน้าระหว่างวันที่ 17-21ต.ค.2565 คาดไว้ที่ 37.50-38.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ กระแสเงินทุนต่างชาติ สถานการณ์ค่าเงินในภูมิภาค และการประชุมสมัชชาใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์กและเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียเดือนต.ค. ข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรม การเริ่มสร้างบ้านและยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ย. นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามตัวเลขอัตราเงินเฟ้อเดือนก.ย. ของอังกฤษ ยูโรโซนและญี่ปุ่น ตลอดจนข้อมูลจีดีพีไตรมาส 3/65 และตัวเลขเศรษฐกิจเดือนก.ย. รวมถึงการกำหนดอัตราดอกเบี้ย LPR ของจีนด้วยเช่นกัน