"Forward’ รับทุน 160 ลบ. มุ่งการเงินกระจายศูนย์

16 ก.ย. 2565 | 11:07 น.

Forward ปิดดีลระดมทุนรอบ Seed Round ได้ 2 แบงก์ใหญ่ กสิกรไทยและกรุงศรี ร่วมสนับสนุนเงินทุนพัฒนานวัตกรรมการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) มูลค่า 160 ล้านบาท พร้อมทุ่มวิจัยและพัฒนาก่อนเปิดบริการแพลตฟอร์มการฝาก/กู้ยืมสินทรัพย์ดิจิทัลตลาดโลก

นายชานน จรัสสุทธิกุล ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฟอร์เวิร์ด (Forward) ฟินเทค-สตาร์ทอัพโกลบอล สัญชาติไทย ด้าน บล็อกเชนและนวัตกรรมการเงินการลงทุนด้านการเงินแบบกระจายศูนย์หรือ DeFi เปิดเผยว่าฟอร์เวิร์ดประสบความสำเร็จปิดระดมทุนรอบ Seed Round ประมาณ 160 ล้านบาท หรือ 5 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ ภายหลังเปิดระดมทุนเพียง 6 เดือน ท่ามกลางความผันผวนของตลาดคริปโทเคอร์เรนซี่และตลาดทุน

"Forward’ รับทุน 160 ลบ. มุ่งการเงินกระจายศูนย์

การเข้าลงทุนรอบนี้ นำโดยกองทุน RPVAF-1 ภายใต้การบริหารของ Primestreet Capital, Beacon Venture Capital จากธนาคารกสิกรไทย, Krungsri Finnovate จากธนาคารกรุงศรีอยุธยา และกองทุนจาก KASIKORN X ซึ่งเป็นการร่วมลงทุนเพิ่มเติมจาก Ratanakorn Technology Group, GBV Capital, และ Varys Capital ที่ได้ยืนยันลงทุนไปก่อนหน้านี้

Forward เป็นโปรเจ็กต์ Global Decentralized Finance แรกของโลก ที่ได้รับเงินลงทุนจากทั้งกองทุนระดับโลกและเงินทุนภายใต้ธนาคารรายใหญ่ของไทยถึง 2 ราย ทั้งนี้เชื่อว่าประเทศไทยยังมีความหวังที่จะก้าวเป็นผู้นำด้าน Innovation & Technology พวกเรายังมีผู้ใหญ่ที่พร้อมสนับสนุนคนรุ่นใหม่การปิด Seed Round นี้ เป็นจุดเริ่มต้นที่เพิ่มความท้าทายให้กับทีมงาน Forward ที่จะต้องพัฒนาองค์กรและอัดฉีดทุก ความสามารถที่มี เพื่อทำให้ประเทศไทยได้ก้าวเป็นประเทศแห่งนวัตกรรมเทียบเท่าประเทศฝั่งตะวันตก

 

ทั้งนี้ Forward พัฒนาผลิตภัณฑ์ Decentralized derivatives (อนุพันธ์) ครอบโมเดล DeFi แบบฝาก และกู้ยืม แต่ปัญหาที่พบ คือ ส่วนใหญ่มีแต่คนฝาก ไม่มีคนกู้ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทำคือ ทำอย่างไรให้มี คนกู้ เราจึงทำแพลตฟอร์มอนุพันธ์ขึ้นมาบน DeFi เพื่อให้เกิดการ long การ short เพื่อ ให้ผู้ใช้เข้ามาใช้เพื่อป้องกันความเสี่ยง คือ สมมติว่าเราซื้อของไว้ แต่กลัวของราคาร่วงก็จะไป short ไว้ เป็นการกู้ยืม การ long คือการยืมมาซื้อหรือ short คือยืมมาขาย ก็จะเกิด barrowing demand เกิดดอก เบี้ยต่อปี (APY) คนฝากก็ได้รับดอกเบี้ย อัตราดอกเบี้ยก็จะโต ยิ่งดึงดูดให้คนนำเงินมาฝาก

นายชานน กล่าวต่อไปอีกว่า ปริมาณการซื้อขาย Cryptocurrency ของ Exchange อันดับหนึ่งของโลกอย่าง Binance ส่วนใหญ่มาจากฝั่ง Derivative ซึ่งมากกว่า Spot อย่างน้อยๆ 3 เท่า Forward จึงมุ่งเน้นพัฒนาระบบซื้อขายอนุพันธ์สินทรัพย์ดิจิทัลแบบไร้ศูนย์กลาง หรือ Decentralized Derivative Platform ในระดับโลก “Global scale” เจาะกลุ่มเป้าหมายนักลงทุนในตลาดต่างประเทศเป็นหลัก โดยไม่มีการเก็บสินทรัพย์ลูกค้าไว้กับบริษัท (Non-Custodial Platform) มีระบบการห้ามมิให้ Sanction address และ Sanction Country เข้ามาทำธุรกรรมในแพลตฟอร์ม เรามีทีมวิจัยที่มาร่วมกันออกแบบเจียรนัยความคิดและสร้าง Protocol ใหม่ ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน ชื่อว่า Automated Position Hedger (APH) Protocol”

 

สำหรับเม็ดเงินจากการระดมทุนรอบนี้จะนำไปใช้การวิจัยและพัฒนา โดยมองว่าสตาร์ทอัพส่วนใหญ่รับเงินระดมทุนมาแล้วมักลงทุนทางด้านการตลาดก่อน ขณะที่โปรดักส์ไม่พร้อม แต่ Forward จะมุ่งการไปยังการศึกษาตลาดรอบข้างคริปโต ศึกษาคู่แข่ง และการพัฒนาโปรดักส์ขึ้นมา รวมถึง ให้ความสำคัญกับระบบความปลอดภัยของระบบ โดยมีการว่าจ้างผู้ตรวจสอบเข้ามาตรวจสอบความปลอดภัยของระบบ ช่องโหว่ต่างๆ 2 ราย แต่มีการตรวจสอบทุกครั้งที่มีการอัพเดทระบบ พร้อมกันนั้นยังให้ความสำคัญกับ การศึกษากฎระเบียบ กฎหมายต่างๆ และระบบบัญชี

 

ทั้งนี้คาดว่า จะพร้อม เปิดให้บริการได้ราวไตรมาส 4 ของปีนี้ พร้อมทั้งระดมทุนรอบพรีซีรีส์ A อีก 160 ล้านบาท หรือ 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อขยายตลาดไปทั่วโลก โดย Forward วางเป้าหมายการระดมทุนชัดเจน วันนี้มูลค่าธุรกิจ Forward มีมูลค่าประมาณ 1,600 ล้านบาท หรือประมาณ 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ Forward ไม่ต้องการระดมทุนมาจำนวน มากๆ แล้วทำให้สูญเสียความเป็นเจ้าของ รอบนี้เราระดมทุนมาเพื่อศึกษาตลาด วิจัยและพัฒนาโปรดักส์ให้เต็มที่ รอบ ต่อไปซึ่งเป็นพรีซีรีส์ A จะระดมทุนราวปลายปี เพื่อสเกลหรือขยายธุรกิจออกไป

 

ผศ.ดร.อุดมศักดิ์ รัก วงษ์วาน ผู้ร่วมก่อตั้งและที่ปรึกษา ฟอร์เวิร์ด (Forward) กล่าวเสริมว่า ตลาดอนุพันธ์ทั่วโลกมีมูลค่าเทรดต่อวัน 100 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโตทั้งตลาดขาขึ้นและลง โดยไทยติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลกที่มีการลงทุนเทรดอนุพันธ์ อย่างไรก็ตามเป้าหมายของคือ นักลงทุนต่างประเทศ โดยเป็นโกลบอลโปรเจ็กต์ ซึ่งตั้งเป้ามีส่วนแบ่งตลาด 0.1% ของตลาดรวมทั่วโลก

 

“เรามุ่งพัฒนา Forward ให้เป็น ‘One Stop Service’ ที่จะแก้ปัญหาของโลก DeFi ให้เป็นแพลตฟอร์มที่ผู้ใช้งาน สามารถได้รับผลตอบแทนแบบยั่งยืน เข้าถึงง่าย และปลอดภัย นั่นคือ ผลตอบแทนที่สูงของผู้ใช้งานต้องมีที่มาที่ไปชัดเจนจากโมเดลธุรกิจของแพลตฟอร์มที่มีความเสี่ยงตํ่า สามารถใช้งานได้ในระยะยาว มี Interface ที่เข้าใจง่าย ใช้งานง่าย