ธ.ก.ส. หนุนสหกรณ์นำเทคโนโลยี สร้างรายได้และความเข้มแข็งชุมชน

30 เม.ย. 2565 | 12:01 น.

ธ.ก.ส.เดินหน้านโยบายสร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกร เติมทุนหนุนสร้างห้องปฏิบัติการเทคโนโลยีให้แก่สหกรณ์การเกษตรย่านตาขาว จำกัด ยกระดับมาตรฐานการผลิตและเพิ่มมูลค่าให้ผลผลิตยางพารา พร้อมสร้างแนวทางในการควบคุมคุณภาพผลผลิตให้กับเกษตรกรสมาชิก ลดปัญหาการถูกกดราคา

​นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและประธานกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เป็นประธานในพิธีเปิดห้องปฏิบัติการเทคโนโลยีสำหรับตรวจสอบคุณภาพน้ำยางพาราสดของ สหกรณ์การเกษตรย่านตาขาว จำกัด

 

และเยี่ยมชมการดำเนินธุรกิจรวบรวมน้ำยางสดจากเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. และเครือข่ายชาวสวนยาง เพื่อนำไปตรวจสอบคุณภาพผ่านห้องปฏิบัติการและรับรองคุณภาพน้ำยางพาราผ่านการบ่งชี้ค่าทางเคมีต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การหาค่า DRC (Dry Rubber Content) และค่าความบูดของน้ำยางสด VFA (Volatile Fatty Acid) เพื่อประเมินราคาให้เทียบเท่ามาตรฐานสากลในการจำหน่ายไปยังตลาดและเกษตรกรไม่ถูกเอาเปรียบจากพ่อค้าคนกลาง

ธ.ก.ส. หนุนสหกรณ์นำเทคโนโลยี สร้างรายได้และความเข้มแข็งชุมชน

โดยมีนายจำเริญ โพธิยอด รองปลัดกระทรวงการคลัง นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์และกรรมการ ธ.ก.ส. นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการ ธ.ก.ส. และพนักงานในพื้นที่ให้การต้อนรับ เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2565 ณ โรงรมหนองสามห้อง สหกรณ์การเกษตรย่านตาขาว ตำบลเกาะเปียะ อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง

นายธนารัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ธ.ก.ส. ตระหนักถึงสภาพการณ์ปัญหากลไกราคายางพาราเสถียรภาพและความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนจากยางแผ่นรมควันและยางแท่ง เป็นน้ำยางพาราสด ทำให้สหกรณ์การเกษตรย่านตาขาวต้องปรับธุรกิจให้สอดคล้องกับความต้องการตลาด จึงได้พัฒนา LAB หรือห้องปฏิบัติการสำหรับตรวจสอบคุณภาพน้ำยางที่สามารถบ่งชี้ค่าทางเคมีต่าง ๆ ได้อย่างมีมาตรฐาน

 

เช่น การตรวจสอบกรณีน้ำยางบูด ค่าความเข้มข้นของน้ำยางที่สมาชิกนำส่ง ต้องมีค่าใกล้เคียงกับที่บริษัทผู้รับซื้อต้องการ ซึ่งถือเป็นการพัฒนาคุณภาพผลผลิตให้ผู้รับซื้อเชื่อมั่นและ   ลดปัญหาการถูกกดราคาในการรับซื้อ ขณะเดียวกันยังสร้างความเชื่อมั่นให้กับเกษตรกรในการรักษาคุณภาพการผลิตและสร้างรายได้อย่างยั่งยืน

ธ.ก.ส. หนุนสหกรณ์นำเทคโนโลยี สร้างรายได้และความเข้มแข็งชุมชน

ทั้งนี้ ในช่วงฤดูการผลิตที่ผ่านมา สหกรณ์การเกษตร ย่านตาขาว จำกัด ทำธุรกิจรวบรวมผลผลิตน้ำยางสด ยางแห้ง ยางแผ่นรมควัน จากเกษตรกรสมาชิกผู้ปลูกยางพารา ประมาณ 10,866 ตัน มูลค่ากว่า 467 ล้านบาท และดำเนินธุรกิจการแปรรูปผลผลิตยางแผ่นรมควันอัดก้อน น้ำยางสด และยางแผ่นรมควัน ประมาณ 2,686 ตัน มูลค่ากว่า 158 ล้านบาท

 

 

ซึ่งการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาพัฒนาห้อง LAB  ในครั้งนี้ ธ.ก.ส. ร่วมสนับสนุนเงินทุนในวงเงิน 1 ล้านบาท เพื่อยกระดับคุณภาพและมาตรฐานการผลิต เสริมสร้างความเข้มแข็งของกลไกการเชื่อมโยงตลอดห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) เพิ่มพูนโอกาสในการแข่งขันทางการตลาด ทำให้เกษตรกรสมาชิกกว่า 5,600 ครัวเรือน มีรายได้เพิ่มมากขึ้น รวมถึงสามารถแก้ไขปัญหาด้านราคาที่ ผันผวนได้อย่างยั่งยืน

 

จากความสำเร็จในการดำเนินโครงการของสหกรณ์การเกษตรย่านตาขาว จำกัด ถือเป็นหนึ่งในนโยบายของการขับเคลื่อนงาน ธ.ก.ส. ที่มุ่งเน้นการพัฒนา ฟื้นฟูและยกระดับคุณภาพการผลิต เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้เพิ่ม ลดปัญหาภาระหนี้สินครัวเรือน ทำให้ภาคเกษตรกรรมและระบบเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน